ชาวเพชรบุรีโอด !! เจอแล้งหนักทำทุเรียนยืนต้นตาย ชาวบ้านขาดน้ำกินน้ำใช้ เผยแพร่: 30 พ.ค. 2566 14:36 ปรับปรุง: 30 พ.ค. 2566 14:36 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ เพชรบุรี – ชาวสวนทุเรียนเมืองเพชรบุรี เจอภัยแล้งหนัก ส่งผลให้ทุเรียนยืนต้นตายนับ1,000 ต้น ชาวบ้านขาดน้ำอุปโภค บริโภค วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วนผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายณัฐพงษ์ พวงประเสริฐ์ อายุ36ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.9 บ้านปางไม้ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายเพลิน ฤทธิ อายุ59ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1บ้านป่าเด้งเหนือ พร้อมด้วย ชาวสวนทุเรียน และชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนหนักเนื่องจากน้ำในแม่น้ำปราณบุรี และน้ำในลำห้วยโสก ในพื้นที่ ม.1บ้านป่าเด็งเหนือ ม.9บ้านปางไม้ ม.8บ้านเขาแหลม และพื้นที่ ม.10 บ้านป่าผาก ต.ป่างเด็ง อ.แก่งกระจาน รวม4หมู่บ้าน น้ำในลำห้วยแห้ง ชาวสวนไม่มีน้ำใช้ทำการเกษตร ทำการปศุสัตว์เลี้ยงโคนม วัว เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักเป็นวงกว้าง ได้รับผลกระทบหนัก ต้นทุเรียนกว่า 1,000 ต้นยืนต้นตาย ลูกทุเรียนไม่สมบูรณ์ตกหล่นเสียหาย ต้นเงาะใบไหม้กำลังจะยืนต้นตายได้รับความเสียหายหนัก พืชผลทางการเกษตรเริ่มแห้งเหยี่วยืนต้นตายเนื่องจากไม่มีน้ำทำการเกษตร อีกทั้งบ่อน้ำที่ชาวสวนขุดไว้กักเก็บน้ำใช้ได้แห้งลงอย่างหนัก ชาวสวนทุเรียนและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือด่วน ด้านนายเดช ทับจิตย์ อายุ65ปี ชาวสวนทุเรียน ม.1บ้านป่าเด็งเหนือ เปิดเผยว่า ปีนี้ชาวบ้านประสบปัญหาภัยแล้งหนัก น้ำในแม่น้ำและลำห้วยแห้งทั้ง 2ฝั่ง ไม่มีน้ำใช้ทำการเกษตรผลผลิตทุเรียนไม่เติบโตไม่สมบูรณ์ ยื่นต้นตายไปหลายสิบต้น จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งเข้ามาช่วยเหลือขุดสระน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำ นางคำพอง โสวาธี อายุ63ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.10บ้านป่าผากที่ปลูกพืชสวน เล่าว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในแม่น้ำแห้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำปราณบุรีลงไปปลายน้ำ ปกติให้น้ำในลำห้วยต้นน้ำปราณบุรีใช้ทำการเกษตรอยู่ประจำ แต่ปัจจุบันน้ำแห้งขอดหมดแล้ว คงต้องค่อยฝนตกลงมาเพราะน้ำในลำห้วยไม่มีให้ใช้แล้ว ขนาดในถังยังไม่มีน้ำหุงข้าวกินแล้ว ด้านนายณัฐพงษ์ พวงประเสริฐ์ อายุ36 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน ฝนทิ้งช่วงมาหลายเดือนแล้วไม่มีตกลงมาเลย ชาวบ้านในพื้นที่มีการเพราะปลูกพืชเชิงเดี่ยว มาเป็นปลูกพืชผสมผสาน ทุเรียน เงาะ กล้วย ขนุน เป็นต้น และต้องใช้น้ำเป็นตัวหลักในการเพราะปลูก ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเกษตรกรบางรายที่มีกำลังทรัพย์ก็ขุดลอกลำห้วยเพื่อเอาน้ำไปใช้ในที่ของตัวเองได้เป็นบางรายเท่านั้น ชาวบ้านส่วนมากทาง อบต.ป่าป่าเด็งได้ดำเนินการส่งน้ำให้ชาวบ้านให้ใช้อุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ ส่วนในภาคการเกษตรน้ำยังไม่เพียงพอ ในพื้นที่โซนล่าง ม.5 ม.6 ม.7 ม.2ม.3 ม.4 เป็นพื้นที่ทำการปศุสัตว์เป็นโครงการสหกรณ์โคนม วัว เป็นหลัก หากสถานการณ์น้ำยังแล้งอยู่แบบนี้อาจจะนำไปสู่วิกฤติเรื่องของโรคระบาดได้ในอนาคต โดยประชากรในพื้นที่ตำบลป่าเด็ง มี10หมู่บ้าน พื้นที่ที่วิกฤติคือ ม.10บ้านป่าผาก ม.8บ้านเขาแหลม เพราะเป็นแม่น้ำห้วยโสกซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลเฉพาะหน้าแล้งอย่างเดี่ยว บางจุดขุดลงไปกว่า 4ชั่วโมงยังไม่เจอน้ำ ชาวบ้านได้มีการปลุกขนุน ปลูกทุเรียน พอน้ำแห้งลงต้นทุเรียน ขนุน ได้ยื่นต้นตายเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งอัตตราน้ำที่ไหลมาเติมในลำห้วยไม่เพียงพอบางจุดสูบน้ำได้เพียง 5-10นาทีน้ำก็หมดแล้ว หากไล่ระดับลงไปพื้นที่นี้คือ พื้นที่ป่าต้นน้ำปราณบุรีพอไหลลงไป ม.7.-6-5-4-3-2 ต่างใช้น้ำในลำน้ำปราณบุรีเป็นหลัก หากพื้นที่ต้นน้ำดึงน้ำไปใช้ในภาคการเกษตรและครัวเรือน ในเร็ววันนี้พื้นที่ด้านล่างคงหนีไม่พ้นเรื่องของการปริมาณน้ำใช้ไม่เพียงพอแน่นอน ชาวบ้านทั้ง10หมู่บ้าน ประชากรกว่า 7,000ราย กว่า2,500-3,000ครัวเรือน คงไม่มีน้ำใช้ทำเกษตรและอุปโภค บริโภคแน่นอน