สภาอุตฯ อีสานจี้ปราบสติกเกอร์ส่วยทางหลวงจริงจัง ชี้เอาเปรียบคนสุจริต-ผลาญงบฯ ซ่อมถนนปีละหลายหมื่นล้าน เผยแพร่: 30 พ.ค. 2566 11:57 ปรับปรุง: 30 พ.ค. 2566 11:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคอีสานจี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาปราบปรามสติกเกอร์ส่วยทางหลวงอย่างจริงจัง ชี้ทำให้เกิดการทุจริตหน่วยงานรัฐเสียหาย ซ้ำเป็นการเอาเปรียบคนทำมาหากินอย่างสุจริต และรถบรรทุกน้ำหนักเกินทำถนนพัง รัฐสูญงบฯ ซ่อมปีละหลายหมื่นล้านวันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาแฉเกี่ยวกับสติกเกอร์ติดรถบรรทุกที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งอ้างว่าเป็นสติกเกอร์ส่วยทางหลวง เพื่อใช้ในการผ่านทางโดยไม่ต้องผ่านการตรวจชั่งน้ำหนัก ซึ่งต่อมาผู้ประกอบการขนส่งหลายองค์กรได้ออกมายอมรับว่าสติกเกอร์ส่วยทางหลวงมีอยู่จริง และมีมานานนับสิบปีแล้ว ทำให้นายวิโรจน์เดินหน้าเพื่อที่จะแก้ไขอย่างจริงจัง ตามที่เป็นกระแสข่าวร้อนอยู่ในขณะนี้นั้นล่าสุดวันนี้ ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กรณีสติกเกอร์ส่วยทางหลวงนั้นยอมรับว่ามีมานานแล้ว ซึ่งในอดีตสติกเกอร์แต่ละแบบใช้ได้ในพื้นที่บริเวณกว้างหลายจังหวัด แต่ช่วงหลังๆ มานี้เปลี่ยนเป็นใช้ได้เฉพาะพื้นที่แคบลง เช่น ใช้วิ่งได้เฉพาะเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งที่ไม่ข้ามจังหวัด หรือใช้วิ่งได้เฉพาะโซนจังหวัดใกล้เคียงกันเท่านั้น จึงทำให้มีสติกเกอร์หลายรูปแบบ แต่ละแบบใช้ได้เฉพาะเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากผู้ประกอบการรถขนส่งหนักส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับเหมาเฉพาะท้องถิ่น ที่จะขนหิน ดิน ทราย วิ่งไม่ไกลนัก เพราะการบรรทุกหิน ดิน ทราย ส่วนใหญ่จะบรรทุกเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด เพื่อที่จะสามารถขนหิน ดิน ทราย ได้ในปริมาณมากๆ โดยใช้เที่ยววิ่งน้อยลง ดังนั้นผู้ประกอบการเหล่านี้จึงต้องซื้อสติกเกอร์มาติด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกตรวจจับน้ำหนักเกินโดยสติกเกอร์เหล่านี้จะมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล ไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่ไว้ และทำสติกเกอร์มาขายให้ผู้ประกอบการที่ต้องการบรรทุกเกินติดรถไว้ ซึ่งจะขายในราคาตั้งแต่ 3,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท แล้วแต่พื้นที่เล็กหรือใหญ่ กลายเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการซึ่งทำถูกต้องตามกฎหมาย ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งไม่เป็นธรรมเลย ขณะเดียวกันกฎหมายที่เอาผิดเฉพาะคนขับรถ โดยไม่ได้เอาผิดถึงเจ้าของรถ ก็ควรที่จะแก้ไขเสีย เพราะส่วนใหญ่เจ้าของรถจะเป็นคนสั่งให้บรรทุกเกินเองทั้งนี้ ทางสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั่วประเทศไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเก็บส่วยทางหลวงลักษณะนี้ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันเสียหายต่อหน่วยงานภาครัฐแล้ว ยังทำให้ผู้ประกอบการที่ทำถูกกฎหมายถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการที่กระทำผิดกฎหมาย และยังทำให้รัฐบาลต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากรถบรรทุกน้ำหนักเกินปีละหลายหมื่นล้านบาทอีกด้วย“ทางสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงขอเรียกร้องให้มีการปราบปรามส่วยสติกเกอร์ให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างจริงจัง” นายหัสดินกล่าวในตอนท้าย