เผยแพร่: 20 พ.ค. 2566 18:19 ปรับปรุง: 20 พ.ค. 2566 18:19 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ บุรีรัมย์ – แม่ชาว อ.ชำนิ บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมลูกชายตายปริศนาในกระท่อมกลางไร่มัน หลังมีคนนัดออกไปหากลางดึกรุ่งเช้าเพื่อนมาบอกเป็นลมหมดสติ แพทย์ระบุเสียชีวิตจากบาดเจ็บศีรษะ ทั้งพบพิรุธหลายอย่างขัดแย้ง เชื่อถูกอุ้มฆ่า เกือบ 2 เดือนคดีไม่คืบหวั่นลูกตายฟรี ตร.เผยเรียกสอบกว่า 10 ปากยังไม่พบหลักฐาน รอผลชันสูตรแพทย์วันนี้ (20 พ.ค.) นางกาญจนา พาลิเพ็ง อายุ 45 ปี ชาวตำบลช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่ นายวีระยุทธ หรือแมน อายุ 23 ปี ลูกชายคนเล็ก เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเพื่อนของลูกชายบอกว่าไปพบลูกชายเป็นลมหมดสติอยู่ในกระท่อมกลางไร่มันสำปะหลัง ระหว่างบ้านหนองตาเปล่ง-หนองบัวหลวง ต.ช่อผกา อ.ชำนิ ตอนเช้าของวันที่ 27 มี.ค. 66 จึงได้โทร.แจ้งรถ 1669 ให้มารับตัวส่ง รพ.ชำนิ ก่อนถูกส่งต่อไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์ และได้เสียชีวิตเมื่อเวลา 18.50 น. วันที่ 28 มี.ค. ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ซึ่งสอดคล้องกับที่ญาติเห็นสภาพศพเบื้องต้นว่ามีรอยปูดบวมที่ศีรษะ และรอยแดงที่ลำคอ จึงเชื่อว่านายแมนถูกอุ้มฆ่า ด้วยการหลอกให้ออกไปหาเพราะมีข้อความแชตในเฟซบุ๊ก นัดให้นายแมนออกไปพบตอนกลางคืน ก่อนจะพบหมดสติในกระท่อมนางกาญจนา ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 26 มี.ค. 66 ลูกชายได้ขี่ จยย.มาที่บ้านกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งแม่ไม่รู้จักว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร แล้วลูกมาขอเงิน 100 บาทบอกว่าจะไปเติมมือถือแม่ก็ให้ไป พอได้เงินแล้วลูกบอกว่าเดี๋ยวจะไปนอนที่บ้านพี่เดช ซึ่งเดชรับจ้างตัดอ้อยด้วยกัน อยู่ที่ ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จากนั้นลูกก็ขี่ จยย.ออกไป แต่พอตี 5 กว่า นายเดช ที่ลูกชายบอกว่าจะไปนอนด้วยกลับโทร.มาถามว่าเห็นนายแมนหรือไม่ ตนก็เริ่มเป็นห่วงลูกชายก็พยายามส่งข้อความและโทร.ไปหาสายว่างแต่ไม่มีคนรับสายก็ใจคอไม่ดีกระทั่งประมาณ 8 โมงเช้าของวันที่ 27 มี.ค. นายโอเล่ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของลูกชายได้ขี่ จยย.คันที่ลูกชายขี่ไปคืนวันที่ 26 มี.ค. มาที่บ้านบอกว่าขณะไปเล่นที่กระท่อมได้เห็นนายแมน ลูกชายของตนเองนอนเป็นลมหมดสติอยู่ที่กระท่อม แต่ได้โทร.แจ้ง 1699 มารับไปส่ง รพ.ชำนิแล้วตอนนั้นตนก็ยังถามนายโอเล่ว่าทำไมลูกชายถึงเป็นลมได้ทำร้ายลูกชายหรือเปล่า นายโอเล่รีบบอกว่าไม่ได้ทำ แล้วตนก็ถามอีกว่าได้พากันเสพยาเสพติดหรือไม่นายโอเล่ยอมรับว่าเสพ ตอนนั้นตนก็แปลกใจ ทำไมนายโอเล่ถึงได้ขี่ จยย.ของลูกชายมา ทั้งที่บอกว่าขี่รถไปเที่ยวทุ่งนาแต่ผ่านไปเห็นนายแมนเป็นลมอยู่ในกระท่อม อีกทั้งนายโอเล่มีท่าทีรีบร้อนเพราะตนบอกว่าจะเอารถคันของลูกชายที่นายโอเล่ขี่มาจะไปส่งหลานที่โรงเรียน แต่นายโอเล่บอกว่าไม่ได้หรอกผมรีบ ตนก็เลยเอา จยย.ของน้องสาวไปส่งหลาน แล้วให้น้องสาวขี่รถของนายแมน ลูกชายไปส่งนายโอเล่หลังจากขี่ จยย.ไปส่งหลานที่โรงเรียนก็รีบไปดูลูกชายที่ รพ.ชำนิ ทันทีที่เห็นสภาพลูกชายในห้องฉุกเฉินไม่รู้สึกตัวก็ถึงกับเป็นลม จากนั้นลูกชายถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์ และเสียชีวิตช่วงเย็น ส่วนตัวเชื่อว่าลูกถูกอุ้มฆ่าแน่นอนเพราะมีพิรุธหลายอย่าง ที่สำคัญยังพบแชตในเฟซบุ๊กคืนก่อนเกิดเหตุว่ามีคนนัดลูกชายให้ออกไปหา อยากขอความเป็นธรรมด้วย เพราะผ่านไปเกือบ 2 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้ากลัวลูกจะตายฟรีด้านนายธนัตถ์ ชมโคกกรวด อายุ 47 ปี ลุงน้องแมน บอกว่า คดีดังกล่าวพบพิรุธหลายอย่างที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง แต่ผ่านไปเกือบ 2 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ผลชันสูตรศพก็ยังไม่ออก และอยากให้ตำรวจเร่งหาข้อมูลหลักฐานเพื่อหาคนกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเชื่อว่าหลานถูกทำร้ายแน่นอนไม่ได้เสียชีวิตด้วยอาการเป็นลมหมดสติ ไม่อยากให้หลานตายฟรี แต่หากไม่มีความคืบหน้าก็จะเดินหน้าร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรมต่อไปจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ชำนิ เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ให้ข้อมูลว่า หลังจากแม่ผู้เสียชีวิตมาแจ้งความวันที่ 28 มี.ค. และติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ก็ได้เรียกเพื่อนผู้ตาย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบปากคำรวมแล้วกว่า 10 ปาก แต่ยังไม่พบพิรุธหรือหลักฐานใดที่ชี้ชัดได้ว่าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งตอนนี้ยังรอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอะไร ยืนยันว่าตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา