“แรมโบ้” ตอกกลับ “วิโรจน์” อย่าเอา “ลุงตู่” มาเปรียบเทียบเป็นคู่แข่งกับ “ก้าวไกล” เพราะคนละชั้น เผยแพร่: 11 พ.ค. 2566 17:26 ปรับปรุง: 11 พ.ค. 2566 17:26 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – “แรมโบ้” ตอกกลับ “วิโรจน์” อย่าเอา “ลุงตู่” มาเปรียบเทียบเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับพรรคก้าวไกลเพราะคนละชั้น มีประสบการณ์ มีผลงานมากกว่า อีกทั้งอย่าหวังคะแนนจากคนที่รักและปกป้องสถาบันวันนี้ (11 พ.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร แกนนำพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความ “ประกาศชัดโค้งสุดท้ายเหลือแค่แข่งกับลุงแบบดวลตัวต่อตัวแล้ว” ว่า “หากคำว่า “ลุง” หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ตนเองมองว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่คู่แข่งกับพรรคก้าวไกล เพราะคนละชั้น พรรครวมไทยสร้างชาติที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ มีอะไรดีกว่าพรรคก้าวไกลมาก ทั้งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แก้ไขปัญหาให้ประชาชนมาแล้วหลายเรื่อง ทำเพื่อประชาชนหลายอย่าง และมีนโยบายที่จะทำต่อ อีกทั้งเป็นคนที่มีประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมืองมา ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นคนที่ปกป้องสถาบัน ไม่เหมือนกับพรรคก้าวไกลที่มุ่งเน้นแต่จะคิดร้ายต่อสถาบัน ปฏิรูปสถาบัน ซึ่งตนเองมองว่าประชาชนที่ออกมาปกป้องสถาบันมีอยู่เกือบทั้งประเทศ ไม่เลือกก้าวไกลแน่นอน แต่จะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ นายวิโรจน์ อย่าเอามาเปรียบเทียบเป็นคู่แข่งทางการเมืองเลย เพราะเห็นอยู่แล้วว่า ใคร พรรคไหน ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนเขารู้ว่าจะต้องเลือกพรรคการเมืองที่ทำประโยชน์ให้เขาอย่างแท้จริง และเขาคงไม่เอาพรรคการเมืองที่ไม่หวังดีต่อสถาบันอย่างแน่นอนนายเสกสกลกล่าวต่อว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเน้นหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่เน้นหาเสียงแบ่งเขาแบ่งเรา หรือแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะทุกคนเป็นพี่น้องร่วมแผ่นดิน ซึ่งต่างจากพรรคก้าวไกล ซึ่งวิธีคิดแบ่งเขาแบ่งเรา ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่แล้ว ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองแน่นอนอย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยสร้างชาติ ชัดเจนในเรื่องของปกป้องสถาบัน พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนคนไทย แต่พรรคก้าวไกลกลับมีนโยบายที่จะแก้หรือยกเลิกมาตรา 112 เปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีสามารถโจมตี ทำลายสถาบันได้ง่ายขึ้นใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ไม่ต้องปากดี มาท้าดวล “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” หรอก เพราะบ้านนี้เมืองนี้เป็นของคนไทย รู้เช่นเห็นชาติพรรคก้าวไกลหมดแล้วว่าคิดยังไงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และคนไทยทั้งประเทศเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่ยอมให้ใครหรือพรรคการเมืองใดทำลายเด็ดขาด จุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ ชัดเจนในการปกป้องสถาบันหลักของบ้านเมืองคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จิตใจมั่นคงตลอดมาไม่เคยเปลี่ยนแปลงนายวิโรจน์ และคนของพรรคก้าวไกล คงออกอาการว่าพลังของคนไทยทั่วประเทศและพลังเงียบ จะหลั่งไหลออกมารวมพลังไปเลือกตั้งในวันที่14 พฤษภาคมนี้ให้พรรครวมไทยสร้างชาติมากมายมหาศาล เพื่อสั่งสอนพรรคการเมืองที่มีรากความคิดเปลี่ยนแปลงสถาบันหลักและคิดทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของประเทศ เพื่อสั่งสอนพรรคการเมืองนั้นให้เข็ดหลาบและเตือนสติพรรคก้าวไกลว่า อย่าคิดร้ายต่อสถาบันหลักของชาติอีกต่อไป”ส่วนเรื่องกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังถือหุ้นสื่อไอทีวี ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องเรียนไปนั้น ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาตรวจสอบว่า ยังถือหุ้นสื่อไอทีวีหรือไม่ ถ้าถือหุ้นอยู่ก็ขาดคุณสมบัติการสมัคร ส.ส. ต้องถูกตัดสิทธิหรือไม่ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบต่อไป เรื่องนี้ควรว่ากันตามกฎหมาย ตามเนื้อผ้า เมื่อมีผู้ร้องเรียน กกต.ก็ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบพิจารณาตามกระบวนการ ไม่ได้เกี่ยวกับว่านักร้องไปกลั่นแกล้งเล่นงานนายพิธา บรรดาคนของพรรคก้าวไกลอย่าทำตัวเหนือกฎหมาย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้ง แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของนายพิธา และทีมกฎหมายพรรคก้าวไกลที่ไม่รอบคอบเอง เคลิ้มไปกับกระแส จนลืมตรวจสอบคุณสมบัติตัวเอง คนไทยทุกคนทราบดีว่า แผ่นดินไทยศักดิ์สิทธิ์ ใครคิดไม่ดีต่อบ้านเมือง ต่อสถาบัน กฎแห่งกรรมอาจจะตามทันไม่ต้องรอชาติหน้า เจอกันที่ชาตินี้แหละครับ” นายเสกสกลกล่าวในตอนท้าย