เปิดใจ!สามี”ผู้กองนุ้ย”เชื่อภรรยาตายเมื่อ5ปีก่อนเป็นหนึ่งในเหยื่อ”แอม ไซยาไนด์”ชี้พิรุธเสียชีวิตหลังรู้จักร่วมลงทุนไม่นาน

เผยแพร่: 27 เม.ย. 2566 17:54   ปรับปรุง: 27 เม.ย. 2566 17:54   โดย: ผู้จัดการออนไลน์ เชียงใหม่-เปิดใจ! สามี “ผู้กองนุ้ย” สงสัยภรรยาที่เสียชีวิตเมื่อ 5 ที่แล้ว อาจเป็นหนึ่งในเหยื่อวางยาฆ่าของ “แอม ไซยาไนด์” เหตุพบพิรุธก่อนภรรยาจะตายเพิ่งรู้จักสนิทสนมและทำธุรกิจเงินกู้กับแอมได้ไม่นาน คล้ายผู้เสียชีวิตรายอื่น แถมเงินเก็บหมดเกลี้ยงและมีหนี้สิน ทั้งที่ปกติหาเงินเก่งจากการทำธุรกิจหลายอย่างและมีฐานะค่อนข้างดี แต่เวลานั้นไม่ทันได้ติดใจสงสัย จนกระทั่งทราบข่าวว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อเพียบจากกรณีที่นายรอย วิมลมาลย์ สามีของ “ผู้กองนุ้ย” ร.ต.อ.(หญิง)ภิญญดา วิมลมาลย์ รองสารวัตร ฝ่ายการเงิน สภ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น โพสต์ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Roy Vimolmal” ตั้งข้อสงสัยว่าภรรยาของตัวเองที่เสียชีวิตเมื่อปี 2561 หรือเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว อาจจะเป็นหนึ่งในเหยื่อถูกวางยาของ “นางสาวแอม” หรือไม่ เนื่องจากได้รู้จักและสนิทสนม รวมทั้งทำธุรกรรมร่วมกับนางสาวแอม ก่อนจะเสียชีวิต ลักษณะคล้ายกับผู้เสียชีวิตที่ตกเป็นเหยื่อรายอื่นๆวันนี้(27 เม.ย.66) ที่บ้านพักในพื้นที่บ้านแม่หวาน ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ50กิโลเมตร นายรอย วิมลมาลย์ อายุ 69 ปี สามีของ “ผู้กองนุ้ย” เปิดเผยว่า ตัวเองกับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้รู้จักกับนางสาวแอมและเจอกันครั้งแรกที่ล็อบบี้ของโรงแรมแห่งหนึ่งในขอนแก่นเมื่อปี 60 ก่อนที่ภรรยาของตนจะเสียชีวิตในปีต่อมา ซึ่งห่างกันเพียงไม่นาน โดยครั้งแรกที่ภรรยา ได้แนะนำตนให้รู้จักกับนางสาวแอม บอกเพียงว่าเป็นเพื่อนที่จะทำธุรกิจด้วยกันเกี่ยวกับเงินกู้ เพราะภรรยาปล่อยเงินกู้อยู่แล้ว หลังจากนั้นตนได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยติดต่อกับภรรยาทางโทรศัพท์อยู่บ่อยๆ จนภรรยาเสียชีวิตในปี 61 ช่วงมกราคม ด้วยสาเหตุป่วยเป็นมะเร็งทั้งนี้ในเวลานี้ทางญาติของภรรยาไม่ติดใจอะไรเพราะไม่เคยรู้จักคนชื่อแอม เช่นเดียวกันตัวเองที่ไม่ทันได้คิดอะไร แม้จะรู้สึกสงสัยอยู่บ้างว่า ปกติแล้วภรรยาเป็นคนหาเงินเก่งจากการทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งปล่อยเงินกู้,เปิดร้านคาราโอเกะ และธุรกิจหอพัก ซึ่งไม่เคยขัดสนเรื่องเงิน แต่ปรากฏว่าหลังภรรยาเสียชีวิตแล้ว กลับมีหนี้สินจำนวนไม่น้อยที่ตัวเองได้นำเงินที่ได้จากการทำงานต่างประเทศไปชดใช้ให้ กระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยมาจนล่าสุดตัวเองได้มาเห็นข่าวเกี่ยวกับนางสาวแอม จึงติดใจสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยาตัวเองว่า อาจจะถูกนางสาวแอมกระทำหรือไม่ อย่างไร เพราะองค์ประกอบหลายอย่างเหมือนกับผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ แต่ทั้งนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนสอบสวนหาความจริง ส่วนมูลค่าความเสียหายจากการที่ภรรยาทำธุรกิจเงินกู้กับนางสาวแอมนั้น ไม่ทราบจำนวนเงินแน่ชัด แต่เท่าที่รู้เป็นหลักล้านบาท