“เสธ.หิ” ยันเช่าที่ทำการพรรค รทสช. เจ้าของที่ไหนจะบอกว่ามีคดีและห้ามเช่า เผยแพร่: 12 มี.ค. 2566 21:12 ปรับปรุง: 12 มี.ค. 2566 21:12 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ กาญจนบุรี – “เสธ.หิ” บุกถิ่นกาญจน์ เยือนเสธ.นุ ว่าที่ผู้สมัคร สส.รทสช.เขต 5 ยันเช่าที่ทำการพรรค เจ้าของที่ไหนจะบอกว่ามีคดีห้ามเช่า ชี้พรรคเพิ่งตั้งขึ้นมาจึงอยู่ที่ต่ำ น้ำจึงใส ปลาไหลมาด้วยเพราะน้ำสะอาด เวลา 16.00 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” อดีตนายทหารชื่อดัง ในฐานะผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เดินทางมาที่ศูนย์ประสานงานพรรค รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 เลขที่ 903 หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมีพลเอกทำนุ โพธิ์งาม หรือเสธ.นุ ว่าที่ผู้สมัคร สส.กาญจนบุรี เขต 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ให้การต้อนรับ โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” ได้พบปะพูดคุยเกี่ยวผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นเกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน รวมทั้งความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เรื่องการทำมาหากินโดยเฉพาะการเข้าไปเก็บหาของป่า ดร.หิมาลัย เผยว่า จริงๆแล้วตนเองไม่ได้ดูแลการเลือกตั้งในภาคนี้ แต่การที่มาหาเสธนุ ในวันนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์กันส่วนตัว เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน และเป็นนโยบายของผู้ใหญ่ที่ว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะปักธง ถามว่ารวมไทยสร้างชาติมั่นใจหรือไม่นั้น ตอบเลยว่าพรรครวมไทยสร้างชาติพยายามที่จะปักธงให้ได้ทุกเขต แต่สิ่งหนึ่งที่ตนเองพยายามบอกตลอดเวลาว่า จะได้ สส.เท่าไหร่นั้น สิ่งๆนี้ตนเองขอเคารพสิทธิและเสียงของประชาชน เพราะจะไปตอบแทนประชาชนไม่ได้สำหรับ เสธ.นุ นั้นก็คิดว่าเขาพยามยามอย่างเต็มที่อยู่แล้ว โดยส่วนตัว เสธ.นุ ท่านเป็นทหารที่ตั้งใจทำงานอยู่ตรงไหน ก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ การที่ประกาศตัวว่าจะลงสมัคร สส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ เชื่อว่าก็จะทำอย่างเต็มที่เช่นกัน เมื่อตั้งใจเต็มที่ แต่ปากกาอยู่ที่มือประชาชน เรามีหน้าที่เดินไปบอกแสดงความตั้งใจให้ประชาชนได้เห็น ทุกเขตของจังหวัดกาญจนบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติมีความตั้งใจที่จะรับใช้ประชาชนทุกเขต ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะให้โอกาสกับพรรคของเราหรือเปล่า” ที่ผ่านมาอาจจะให้โอกาสพรรคอื่นไปบ้างแล้ว ลองดูว่า ถ้าเอาไข่ไปวางในตะกร้าใบเดียว ถ้าตะกร้าตกแตกไข่มันก็จะสูญหมด ซึ่งอาจจะเอาไข่มาวางไว้ที่ตะกร้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นตะกร้าใบที่ห้าบ้างก็ได้ ลองดู ซึ่งเราจะทะนุถนอมไข่ในตะกร้าเป็นอย่างดี ถามว่าลึกๆแล้ว พรรครวมไทยสร้างตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะได้ ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 5 เขตหรือไม่นั้น แนวทางทำพรรคการเมือง มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วว่าทุกพรรคก็อยากได้ ส.ส.ทุกเขต แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะให้ความเมตตากับพวกเราอย่างไร ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราตอบแทนประชาชนไม่ได้ แต่เรามีหน้าที่ที่จะนำเสนอสิ่งดีไปให้และพร้อมรับใช้ประชาชนผู้สื่อข่าวสอบถามว่า คิดอย่างไรกับคำว่า “ตกปลาในบ่อเพื่อน” เสธ.หิ ตอบว่าบอกได้เลยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ หลายคนเห็นว่าพรรคนี้เป็นอย่างไร มีอุดมการณ์อย่างไร ก็อยากที่จะเข้ามาร่วมก็เป็นเรื่องธรรมดา คำว่าตกปลาในบ่อเพื่อน พรรคเพิ่งตั้งขึ้นมา แล้วเราจะไปตกที่ไหน เพียงแต่ว่าพรรคของเราเพิ่งตั้งมาใหม่และเราอยู่ที่ต่ำ เพราะพรรคของเราใครๆก็มองว่าต่ำอยู่แล้ว มันเป็นธรรมชาติเมื่อพรรคอยู่ที่ต่ำ น้ำก็ไหลมารวมกัน บางทีปลามันก็ไหลมาด้วย ซึ่งเราไม่ได้ไปตกที่บ่อใคร ปลาเขาอยากมาเขาก็มาเพราะน้ำที่นี่มันใส อยู่ได้อยู่เย็นสบายก็มาอยู่ก็แค่นั้นเอง ” ส.ส.ทุกคนมีวิจารณญาณของตัวเอง ทุกคนที่เป็น ส.ส.หรือทุกคนที่มาลงสมัคร ส.ส.เขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่พอ และหลายคนผมเชื่อว่าผู้ที่จะมาเป็น ส.ส.อยู่ในสภาไม่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่กำเนิดตั้งแต่เป็น ส.ส.จนถึงขั้นสุดท้ายในการเล่นการเมือง หลายคนเปลี่ยนพรรคไปพรรคมา เพราะฉะนั้นอย่าใช้คำพูดนี้อีกเลย เพราะว่าคำพูดนี้ผมเชื่อว่ามันใช่กับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ได้ เพราะทุกท่านมีวิจารญาณของตัวเอง ต้องให้เกียรติและกรุณาให้เกียรติความคิดของทุกคน ตรงนี้สำคัญกว่า” สำหรับกระแสข่าวโจมตีเรื่องการไปเช่าพื้นที่บริษัทที่เชื่อมโยงกับ ส.ว.อุปกิต ทำที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้ว่าสุดท้ายจะยกฟ้องก็ตาม เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม ในการที่จะหาสถานที่ตั้งพรรค หัวหน้าพรรคต้องไปหาด้วยตัวเองหรือ หัวหน้าพรรคเรามีตำแหน่งที่จะต้องทำงานให้รัฐบาล วันๆ หนึ่งเวลาทานข้าวยังไม่มีเลย ดังนั้นเรื่องการจัดหาพื้นที่ มันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะไปหา แค่ให้ ข้อมูลกว้างๆว่าต้องการที่อยู่บริเวณใดซึ่งดูจากเจ้าหน้าที่ ที่เสนอสถานที่ และเสนอสถานที่ขึ้นมา เมื่อต้องการได้ที่ทำการพรรค เมื่อมีคนให้เช่าที่ หรือให้เช่าตึกที่อยู่ในทำเลที่เราต้องการเช่า ราคาเท่าไหร่ก็เช่า มันก็แค่นั้นเอง ซึ่งบางครั้งอาจจะมารู้ภายหลังก็ได้ว่าเป็นของใคร แต่เมื่อมารู้เราก็ได้ทำสัญญาเช่าไปก่อนแล้ว ซึ่งมันไม่ได้เสียหายอะไร ในวันที่เช่ามันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เรื่องมันมาเกิดภายหลัง เพราะไม่มีเจ้าของบ้านไหน ที่จะมาคนจะเช่าว่าตนเองโดนคดีมาก่อน ซึ่งทางหัวหน้าพรรคก็แค่ให้เจ้าหน้าที่ไปจัดมาเสนอก็แค่นั้นเอง ”ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” เผย