เผยแพร่: 11 มี.ค. 2566 17:03 ปรับปรุง: 11 มี.ค. 2566 17:03 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ชาติพัฒนากล้า” เปิดนโบบายเด็ด “โคราชโนมิกส์ Koratnomics” นโยบายเฉพาะในการพัฒนาโคราชและภาคอีสานให้รุ่งเรืองใน 5 ด้าน “สุวัจน์”ลั่นเอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ถือเป็นการเปิดประตูอีสานสู่อินโดจีนภาค 2 เป็นภาคต่อจากยุค “น้าชาติ” ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมวันนี้ ( 11 มี.ค.) ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 1 , นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคฯ , นายวัชรพล โตมนศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 2 , นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 3 พร้อมด้วยสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า จ.นครราชสีมา ผู้นำชุมชน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กว่า 2,000 คน ร่วมงานในการเปิดตัวนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์) นโยบายเฉพาะในการพัฒนาโคราชและภาคอีสาน เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมาหลังเปิดนโยบายภาพรวมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 12 เรื่องไปแล้ว ภายใต้แนวคิด “มีงาน มีเงิน ของไม่แพง” และได้รับการขานรับอย่างดีพร้อมข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ โดยนโยบายโดนใจพี่น้องประชาชน เช่น นโยบายลดภาษี นโยบายในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ นโยบายเพิ่ม นักท่องเที่ยว 2 เท่า นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย และนโยบายซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุทั้งนี้เนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้า มีฐานการเมืองอยู่ที่ภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้ออกแบบแนวคิดนโยบายเป็นการเฉพาะ ในการสร้างความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสาน จึงได้มีการจัดงานเปิดตัว นโยบาย “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์) ในการพัฒนาอีสานและโคราช ที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันนี้นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้เลือกตั้ง การเมืองต้องเตรียมพร้อมโดยเพาะในการแก้ไขปัญหาประเทศ พรรคฯ เราให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพราะถือเป็นปัญหาหลักและเราเคยแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศไปแล้ว แต่เนื่องจากภาคอีสานและ จ.นครราชสีมาเป็นพื้นฐานด้านเศรษฐกิจที่สำคัญและประสบปัญหาด้วย และพรรคฯถือว่าเติบโตมาจากภาคอีสาน เกิดที่ จ.นครราชสีมาฉะนั้นเราได้บอกไว้ว่าจะนำเสนอนโยบายเฉพาะภาคอีสาน และ จ.นครราชสีมา เพื่อบ่งชี้ให้เห็นชัดเจนว่าพรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคของคนโคราชของคนอีสานและเจ้าใจปัญหาและพร้อมที่จะนำเสนอแนวนโยบาย ซึ่งเราได้จัดทำนโยบายซึ่งมีผู้มีประสบการณ์ของพรรค รัฐมนตรีต่างๆ นักวิชาการต่างๆ เราเรียกว่า นโยบาย “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์) เพื่อเป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องที่จะทำให้อีสาน และจ.นครราชสีมากลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมาสู่อีสานและ จ.นครราชสีมา พล.อ.ชาติชาย เคยเอานโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า เปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน คราวนี้นโยบาย “Koratnomics” (โคราชโนมิกส์)เหมือนกับเปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน ภาค 2 หรือภาคต่อที่จะยิ่งใหญ่กว่าเดิม เข้มแข็งกว่าเดิมแล้วทำให้เศรษฐกิจกลับมายิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเหมือนกับเรามี EEC เมื่อก่อน พล.อ.ชาติชาย ทำนิคมอุตสาหกรรมภาคตะตัวออกวันนี้ก็แน่น วันนี้ก็เต็มฉะนั้นโคราชโนมิกส์เป็นนโยบายเอาเศรษฐกิจยุคทองของโคราชของอีสานกลับมา ประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ เราจะต้องสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของโคราช , 2.ต้องสร้างระบบคมนาคมที่เข้มแข็งและทันสมัย , 3.ต้องสร้างให้โคราชอีสานเป็นดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอินเตอร์ , 4.โคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารให้กับโลก และ สุดท้าย 5.เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบมากๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาไม่เพียงพอ หรือนโยบายโคราชเมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ ฉะนั้นใน 5 นโยบายนี้จะมีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์ที่จะนำไปสู่การต้อนรับนักลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม การลงทุนต่างๆ ที่จะทำให้ทุกคนมีงาน ทุกคนมีเงินและทุกคนสามารถที่จะอยู่กับเศรษฐกิจยุคทองที่จะกลับมาสำหรับ จ.นครราชสีมา ถือเป็นหัวใจของพรรคชาติพัฒนากล้าได้ตั้งเป้าหมายการเลือกตั้ง ไว้อย่างไรนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า จ.นครราชสีมาไม่ใช่หัวใจ แต่เป็นชีวิตเลย เดี๋ยวรอให้ กกต.แบ่งเขตเรียบร้อยก่อน ซึ่งตอนนี้ผู้รับผิดชอบเตรียมผู้สมัคร ส.ส.ไว้ครบถ้วน ตนมั่นใจการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนมั่นใจมากๆ โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมาว่าเราจะต้องประสบความสำเร็จ เพียงแต่ว่าจะได้กี่คนตนยังไม่ทราบ แต่มั่นใจว่าเราต้องทำได้ คว้าแชมป์ที่โคราชเพื่อจะได้มีพลังมาให้คนโคราชส่วนเรื่องกระแสข่าวการใช้เงินในการเลือกตั้งหาเสียงต่างๆ นายสุวัจน์ กล่าวว่า อันนี้เป็นภาพรวมที่มีข่าวที่เป็นปัญหาที่จะต้องช่วยกันแก้ไข พรรคการเมือง พวกเราเองต้องช่วยกันดูแลและช่วยกรรมการเขาด้วย คือ กกต.กรรมการการเลือกตั้งก็ต้องเหนื่อย และช่วยเข้มงวดกวดขันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพรรคการเมือง ไม่ว่าพรรคใหญ่ พรรคเล็ก เป็นธรรมกับผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน พอมีความเป็นธรรมก็เกิดแฟร์เพลย์ คนดูก็อยากดู คนก็อยากไปเลือกตั้ง ผลการเลิกตั้งเกิดขึ้นทุกคนก็ยอมรับมันทำให้บรรยากาศหลังเลือกตั้งเป็นไปด้วยความรัก ทุกคนจะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้นต้องเริ่มต้นด้วยการเมืองที่บริสุทธิ์ ต้องฝาก กกต.เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ช่วยดูให้เกิดความเป็นธรรมและทุกคนรู้สึกว่าแฟร์เพลย์ด้วย