ชาวบ้านเดินขบวนไม่พอใจผู้บริหารเทศบาลสระบุรีย้ายพระนาคปรก เผยแพร่: 20 ก.พ. 2566 17:18 ปรับปรุง: 20 ก.พ. 2566 17:18 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ สระบุรี- ชาวบ้านเดินขบวนค้านผู้บริหารเทศบาลเมืองสระบุรี ย้ายพระนาคปรก ไปประดิษฐานที่อื่น ที่ไม่เหมาะสม วันนี้(19 ก.พ.) ได้มีกลุ่มชุมชน ประกอบด้วย ร.ต.สมชาย กลัดทอง ประธานชุมชนแก่งขนุน 1 นางอโณทัย นายะพันธ์ ประธานชุมชนหลัง บ.ข.ส. นายชาญชัย คำนวณวุฒิ ประธานชุมชนบ้านอ้อย 2 พี่น้อง อ.ส.ม.และชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองสระบุรีราว 100 คน พากันมารวมตัวที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสระบุรีทั้งนี้ เพื่อยื่นหนังสือสอบถามและคัดค้าน การที่ผู้บริหารฯเตรียมที่จะย้ายองค์พระนาคปรกพุทธพงศ์มงคลชัย ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณหน้ามุขอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองสระบุรี ไปไว้ที่ทำการประปาเขาน้อย ท่ามกลางบรรยากาศชุลมุน ขณะกลุ่มชาวบ้านพากันกราบไหว้สักการะองค์พระนาคปรก มีผู้สูงวัย (บางคน) ที่ไม่พอใจการกระทำของผู้บริหารฯ ที่จะย้ายองค์พระออกไปที่อื่น ต่างพากันบ่นพึมพำ และสาปแช่ง หากผู้ใดย้ายองค์พระที่พวกเขา เคารพเลื่อมใสและมีส่วนบริจาคทรัพย์ในการสร้างพระนาคปรกนี้ด้วยไปจากที่นี้ ขอให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วันต่อมา นายยุทธนา กัลยาวัฒนเจริญ รองนายกเทศมนตรี ตัวแทน นายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ลงมาพบและรับหนังสือคัดค้านจากชาวบ้านและขอทราบเหตุผลการย้าย และชาวบ้านสงสัยว่า ได้มีการทำประชาพิจารณ์สอบถามชาวบ้านบ้างหรือไม่นายยุทธนา ให้เหตุผลในการย้ายพระนาคปรก ไปที่ทำการประปาเขาน้อยว่า ฐานองค์พระชำรุดต้องมีการบูรณะซ่อมแซม และต้องการ พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะทำเป็นที่จอดรถเมื่อชาวบ้านได้ทราบเหตุผล ในการย้ายในครั้งนี้ เพราะไม่สมเหตุสมผล ฐานองค์พระชำรุดสามารถซ่อมแซมได้ ไม่จำเป็นต้องย้าย และพื้นที่แคบๆ ติดเสาธงไม่สามารถจะทำเป็นที่จอดรถได้ ส่วนสถานที่ ประปาเขาน้อยที่จะย้ายองค์พระนาคปรกไปนั้นเป็นป่า ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ย้ายไป ทำให้ชาวบ้านส่งเสียงดังโต้ตอบ ทำให้เกิดการชุลมุนขึ้นเล็กน้อยนายยุทธนา ถึงชะงักฟังชาวบ้านไปครู่หนึ่งเมื่อตั้งสติได้ จึงพูดจาชักชวนไปพูดจากันแบบคนมีการศึกษา ทำให้ชาวบ้านยิ่งไม่พอใจหนักขึ้น เพราะดูเหมือนเป็นการดูถูก ชาวบ้านที่มาคัดค้านไม่มีการศึกษา แต่ในที่สุดก็ได้ยอมรับหนังสือคัดค้านจากชาวบ้านและรับปากว่า จะนำเข้าที่ประชุมหารือกัน และ จะจัดประชุมทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นของชาวบ้าน ตามที่เรียกร้องมาอีกครั้งหนึ่ง ชาวบ้านพอใจจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ ด้าน นาง พิกุล วีระวิชัย อายุ 67 ปี (ชาวบ้าน) เล่าว่า วันนี้ที่ตนมา เพื่อมาขอให้เขาไม่ย้ายพระหน้าปกที่พวกเราร่วมกันสร้าง เขาจะย้ายไปไว้วัดที่อยู่ในป่า ปรพชาชนทั้งหมดร่วมกันสร้าง 6-7 ปี ร่วมกันออกเงิน ซึ่งหลวงพ่อรวยเป็นผู้มาปลุกเสก และจู่ๆจะมายกของเขาไปโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว และตนอยากจะถามว่า เกะกะตรงไหน เนื้อที่ไม่ถึง 5 เมตร จะย้ายทำไม ตนเข้ามาเสียค่าน้ำก็ยกมือไหว้กรณี ที่เขาพูดว่าไม่มีประชาชนยกมือไหว้หรือเข้ามากราบไหว้ เป็นได้เหรอที่ตนกราบไหว้แล้วต้องไปบอกคุณว่าฉันมาไว้พระนะ มันไม่ใช่ คุณจะทำอะไรก็น่าจะบอก ในเมื่อเวลาเขาปลุกเสกคนในชุมชน เทศบาลเมืองมีสิทธิ์ มีเสียงที่จะมาร่วมกันสร้าง พอสร้างขึ้นมาแล้วก็เป็นที่ยึดเหนี่ยวของทางชุมชมและของชาวเทศบาล ตนไม่อยากให้ย้าย จู่ๆเขาจะมายกไปตอนกลางคืนมันไม่ใช่ พอพวกตนรู้ข่าวก็เลยมา แต่มากันเป็นส่วนน้อย ถ้ายังจะดื้อรั้นแบบนี้อีก พวกเราก็จะไม่ยอม เพราะมันเป็นของพวกเราก่อสร้างกันขึ้นมา