สปสช.เขต 8 จัดงบ ไม่เกินวงเงิน 50 ล้านบาท สนับสนุนยกระดับบัตรทอง “30 บาทรักษาทุกที่ไม่มีใบส่งตัว” ใน 7 จังหวัดภาคอีสาน หวังยกระดับบริการเทียบเท่าสิทธิข้าราชการและลดความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพ
ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 8 อุดรธานี กล่าวว่า สปสช.เขต 8 และเขตสุขภาพที่ 8 กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพ “30 บาทรักษาทุกที่ไม่มีใบส่งตัว” เฉพาะโรงพยาบาลสังกัดในพื้นที่ 7 จังหวัดของเขตสุขภาพที่ 8 ซึ่งประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.สกลนคร จ.นครพนม จ.เลย จ.หนองบัวลำภู จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬ
โดยผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้โดยที่ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวอีกต่อไป เบื้องต้นเฉพาะโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขก่อน ซึ่งทาง สปสช.เขต 8 ได้ทำงานร่วมกับผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 8 ในด้านการจัดระบบงบประมาณสนับสนุน เพราะแต่เดิมเวลาผู้ป่วยไปรับบริการต้องไปหน่วยบริการที่ตัวเองลงทะเบียน แต่ยังมีคนอีกกลุ่มที่ไม่สะดวกและมีความจำเป็นต้องเดินไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นๆ เช่น ย้ายบ้าน ต้องรักษาต่อเนื่อง ต้องส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลอื่น
จึงได้มีข้อตกลงกันว่าให้หน่วยบริการในเขตสุขภาพที่ 8 ให้การรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยที่ไม่เก็บเงิน ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ขณะที่ สปสช.จะสนับสนุนงบประมาณจากส่วนกลางให้ โดยคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ ไม่เกิน 50 ล้านบาทก็น่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับโรงพยาบาลที่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 8
“ผู้ป่วยที่ย้ายบ้าน รักษาต่อเนื่อง ต้องส่งต่อ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ไม่ต้องกลับมาขอใบส่งตัวอีก ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการเปิดให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองไปเข้ารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิได้ทุกที่ จากเดิมที่ต้องมีใบส่งตัว ต้องมีการตามจ่ายระหว่างหน่วยบริการกัน หรือในเรื่องมะเร็งรักษาที่ไหนก็ได้ที่พร้อม ก็จะมีเงินไว้ที่ส่วนกลาง เมื่อรักษาแล้วโรงพยาบาลก็เบิกค่าใช้จ่ายไปที่ส่วนกลางได้เลย ไม่ต้องให้คนไข้กลับไปรับใบส่งตัว” ทพ.กวี กล่าว
ทพ.กวี กล่าวต่อไปว่า นอกจากเรื่องการสนับสนุนด้านงบประมาณแล้ว เขตสุขภาพที่ 8 ได้ดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศในเรื่องของประวัติการรักษาเพื่อทำให้เป็น electronic medical record หรือการบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์เพื่อที่เวลาคนไข้ไปรับบริการที่หนึ่ง ปลายทางก็จะทราบว่าต้นทางรักษาอะไรมาบ้าง สภาวะคนไข้เป็นอย่างไร เพื่อให้การยกระดับบัตรทองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ตอนนี้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยกระดับเป็นบัตรทองไปได้ทุกที่ก็จะใกล้เคียงกับสิทธิราชการที่ไปไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ทำเฉพาะในเขต ในเขตก็มีโรงพยาบาลระดับสูง ถ้าจำเป็น กลัวว่าหน่วยบริการอื่นรักษาไม่ได้ก็สามารถเดินมารักษาได้เลยเหมือนสิทธิราชการ เรื่องนี้เป็นนโยบายที่ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตั้งใจทำให้เกิดความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพ เราก็ยกระดับจุดด้อยของบัตรทองขึ้นมาและหวังว่าจะทำให้ระบบสุขภาพของประเทศลดความเหลื่อมล้ำมากยิ่งขึ้น” ทพ.กวี กล่าว