โตโน่ ภาคิน ตอบแล้วทำไมตัดสินใจเข้าสู่วงการลูกหนังและเพราะอะไรทำไมต้องเซ็นสัญญาทีมราชบุรี อังคารที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 13.35 น.
กลายเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจทันทีหลังล่าสุดหนุ่มหล่อ “โตโน่” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ดาราหนุ่มวัย 34 ปี เซ็นสัญญาร่วมทีม “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล ทีมไทยลีก เป็นเวลา 6 เดือน โดยเจ้าตัวจะได้สวมเสื้อหมายเลข 96 พร้อมมีรายชื่อลุยศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นนี้ ตามข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในรายการขอบสนาม ก็ได้มีการเชิญหนุ่มโตโน่มาพูดคุยถึงเรื่องที่ตัดสินใจรับเป็นนักฟุตบอลทีมราชบุรีและประเด็นค่าตอบแทนที่ได้รับ ซึ่งเจ้าตัวก็เล่าว่า “เรื่องรับเงิน 500 บาท รับจริงไม่ได้กิมมิกขำๆคือการลงทะเบียนเป็นนักเตะมืออาชีพมันต้องมีสัญญา จริงๆแล้วเราไม่ได้คิดจะรับเงิน แต่พอมันให้ลงเงิน สโมสรก็ยื่นมาว่าแล้วแต่เราจะกรอก เราก็เลยบอกไปว่าเราเอาเดือนละ 500 บาทแล้วกัน (ยิ้ม) ราคาตามฝีเท้า (หัวเราะ) ที่เอาแค่นี้เพราะมันต้องกรอกและผมไม่ได้คิดจะมาเอาอะไรกับทางสโมสรเลย เราอยากมีช่วย ไม่ใช่เฉพาะสโมสรนี้นะ ทุกๆ อาชีพได้รับผลกระทบจากโควิดหมด เราไม่ได้อะไร แต่มันต้องกรอกแค่นั้น”
“ที่คิดมาเอาดีด้านฟุตบอลเมื่อประมาณ 2 เดือนกว่าผมถ่ายละครเรื่องพระจันทร์แดง ร่างกายมันต้องฟิต เราก็ออกกำลังกายมา ทีนี้พอมาเจอโควิดกองละครถ่ายไม่ได้ต้องพักเบรก เราเลยต้องหาสถานที่ที่คงร่างกายของเราให้เหมือนตอนที่เราเริ่มถ่ายละคร จุดเริ่มต้นแค่นี้ ประกอบกับที่ผ่านมาเราสร้างทีมฟุตบอลอยู่ทีมหนึ่งชื่อว่าแข้งข้าวเหนียว ยูไนเต็ด มีทีมเรียบร้อยแล้ว (ยิ้ม) ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างทีมคือเราต้องการไปเตะตามต่างจังหวัดเพื่อเอาอุปกรณ์กีฬาและทุนการศึกษาไปมอบให้กับโรงเรียนต่างๆ ที่เขาขาดแคลน ทีมของเรามีหลายอาชีพร่วมกัน ในนั้นมีนักฟุตบอลอาชีพด้วย จากนั้นพอมีโควิด ผมเลยถามว่ามีใครซ้อมอะไรไหม ก็มีนักฟุตบอลคนนั้นตอบมาว่าเขากำลังจะเก็บตัวพอดีกับทีมราชบุรี เขาก็ประสานไป ทีนี้เราก็เลยได้มาซ้อม แต่มันมีเงื่อนไขว่าถ้าจะมาซ้อมก็ต้องซ้อมทุกอย่างเหมือนนักฟุตบอล”
“ตอนนั้นรู้สึกเป็นเกียรติมากและดีใจที่ได้ไปศึกษาหาความรู้กับมืออาชีพ ซึ่งมันเป็นฝันของเราอยู่แล้วกับการเป็นนักฟุตบอลแต่มันเลยอายุเรามาแล้ว ซึ่งเราก็อยากจะเอาความรู้มาพัฒนาทีมแข้งข้าวเหนียว ให้เอาประสบการณ์ดีๆ ไปให้ความรู้กับน้องๆ ในตามต่างจังหวัด ตอนนี้เซ็นสัญญาแล้ว ไม่ได้คิดอะไร แค่อยากหาที่ซ้อมมากกว่าครับ ระหว่างที่ผมซ้อมก็มีภาพกับทีมราชบุรี ก็เริ่มมีข่าว ตอนแรกๆ พี่โตโน่ขอถ่ายรูปด้วยหน่อย ตอนหลังๆ เริ่มเป็นโตโน่จะมาอยู่ไหม ซึ่งที่นั่นคนน่ารักมาก เราก็คิดว่าจะตอบแทนอย่างไรดี เหมือนมีคนเชิญชวน เมื่อไหร่จะมาอยู่กับเรา นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่คนอยากให้ไปอยู่ แต่ผมไม่รู้มากน้อยขนาดไหน แต่ผมจำน้ำเสียงและแววตาเขาได้ ซึ่งชื่อเสียงเล็กๆ น้อยๆ ถ้ามันจะทำให้คนรู้จักราชบุรีมากขึ้น ผมก็ยินดีตอบแทนเขาครับ”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากยูทูบ ขอบสนาม
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
- เห็นด้วย
100%
- ไม่เห็นด้วย
0%