เสียงสะท้อนประธานชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารหลังโดน ศบค.ล็อคดาวน์อีก
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์โรค covid-19 ระบาดรอบ 3 ซึ่งมีผลกระทบกับบรรดาร้านอาหารและแผงลอยในจังหวัดสมุทรสงคราม ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) หรือ ศบค. ได้ขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิม 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ในจำนวนนี้มีจังหวัดสมุทรสงคราม ด้วย โดยได้มีมาตราการที่ได้รับผลกระทบกับร้านอาหารคือให้เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. และยังขายได้เฉพาะใส่ถุงกลับบ้านห้ามนั่งทานที่ร้าน ตั้งแต่วันที่ 3 – 31 สิงหาคม นั้น
นายภาณุมาศ รวมสุข ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารสมุทรสงคราม กล่าวว่า ตนพร้อมกับสมาชิกชมรมทุกร้าน ก็พร้อมและยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของจังหวัด และศบค.และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกๆด้าน เพื่อหยุดเชื้อและความปลอดภัยของผู้บริโภค และเจ้าของร้านรวมถึงพนักงานทุกคน แต่ต้องยอมรับว่าการประกาศล็อคดาวด์แบบนี้ ร้านอาหารทุกร้านไม่มีใครได้เตรียมตัวเตรียมใจกันก่อน ผลกระทบที่เกิดขึ้นได้รับความเดือดร้อนกันทุกภาคส่วนในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ร้านค้าทั่วไป ทำให้ตอนนี้บรรดาร้านอาหารหมดหวังหมดกำลังใจแทนที่จะมีรายได้จุนเจือครอบครัวและพนักงาน รายรับไม่มี กลับมีแต่รายจ่ายให้กับลูกน้อง พนักงานที่ต้องเลี้ยงดูกันทุกวัน ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ไม่รู้ทางภาครัฐจะมาช่วยเยียวยากับเจ้าของกิจการอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเยียวยาแต่ลูกจ้างพนักงาน ส่วนนายจ้างและเจ้าของกิจการต้องมารับภาระต่างๆมากมายทั้งในเรื่องของภาษีต่างๆประกันสังคม และรายจ่ายอื่นๆที่ตามมาอีก
นายภาณุมาศ กล่าวว่า การที่จะผ่อนคลายว่าเปิดร้านได้แต่ห้ามนั่งกินแล้ว มันจะได้ประโยชน์อะไร เปิดร้านไปก็นั่งกินไม่ได้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวผ่านไปผ่านมา เท่ากับเปิดร้านกินเองเลี้ยงลูกน้องคนงาน มีแต่ค่าใช้จ่ายแต่ไม่มีรายรับแล้วมันจะอยู่กันได้อย่างไร ลูกน้องคนงานพอได้ยินประกาศนี้ก็บ่นกันไปว่าแล้วพวกหนูจะเอาอะไรกินกัน ส่วนนายจ้างเองก็ไม่เคยได้รับการชดเชยอะไรเลยสักครั้ง เจ็บแล้วเจ็บอีกจนบ้างรายถึงกับเลิกกิจการไปเลยบางรายก็ทนอยู่ๆไปแล้วเมื่อไรจะดีก็ไม่มีใครตอบได้ จึงวอนทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าร้านอาหารและแผงลอยต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ด้วยทุกช่องทางที่จะช่วยเหลือได้
นายภาณุมาศ กล่าวว่า ส่วนกรณีวัคซีนเข็มแรกยังไม่เห็นเลยที่อื่นเค้าเข็ม 2 – 3ไปแล้ว แต่ชีวิตพ่อค้าแม่ค้าสุดแสนเศร้าที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ทั้งที่เมืองแม่กลองสมุทรสงครามเป็นเมืองท่องเที่ยวเศรษฐกิจการเงินไหลเข้ามาจากนักท่องเที่ยว ซึ่งร้านอาหารจัดว่าเป็นด่านหน้าต้องรับนักท่องเที่ยวซึ่งทำเงินเข้าจังหวัดมากมายเป็นลำดับต้นๆ แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือแม้กระทั่งวัคซีน
“ผมว่าถ้ารัฐว่างแผนบริหารจัดการเตรียมการล่วงให้ดีสิ่งเลวร้ายนี้คงไม่เกิดขึ้นแต่ทุกวันนี้ รัฐตามแก้ปัญหาที่ละจุด ที่ละข้อ จนเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้” นายภาณุมาศ กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่