ที่เที่ยวเดือนกันยายน เอาใจสายเที่ยว กับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย ไปได้ในเดือนกันยายน สัมผัสประสบการณ์เที่ยวหน้าฝน ออกไปสูดไอดินและกลิ่นฝน ให้ลมเย็น ๆ ปะทะหน้าให้สดชื่นสุด ๆ ไปเลย
เดือนกันยายน ยังคงอยู่ในช่วงหน้าฝน แต่ก็ขยับเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่อากาศเริ่มเย็นสบาย ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป เหมาะสำหรับการขึ้นเขาไปสัมผัสธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นทะเลหมอกยามเช้า ป่าเขาชุ่มฉ่ำ นาข้าวเขียวขจี หรือประเพณีแสนงดงามตามแบบฉบับของคนไทย ว่าแล้วจะรอช้าอยู่ไย รีบเก็บกระเป๋าแล้วออกเที่ยวในช่วงกันยายนนี้กันดีกว่า กับ 15 สถานที่เที่ยวในเดือน 9 ที่เรานำมาฝาก เริ่มต้นกันที่
1. สวนสนบ่อแก้ว จังหวัดเชียงใหม่
เที่ยวไทยยังไงให้ได้ฟีลเหมือนเกาะนามิ ประเทศเกาหลีใต้ ก็ต้องมาที่นี่เลย สวนสนบ่อแก้ว อำเภอฮอด ตั้งอยู่เลยจากอุทยานแห่งชาติออบหลวงไปประมาณ 22 กิโลเมตร ซึ่งที่นี่เป็นที่เพาะพันธุ์ต้นสนหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก ทำให้ได้เพลิดเพลินกับแนวต้นสนสวยที่รายล้อมเรียงรายเป็นทิวแถว ถ่ายรูปออกมาเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียว ยิ่งถ้ามาในช่วงปลายฝนแบบเดือนกันยายนด้วย ก็จะยิ่งชุ่มฉ่ำ และถ้ามาในตอนเช้า ๆ อาจจะได้เห็นสายหมอกบาง ๆ ที่ลอยละล่องคลอเคล้าอยู่ระหว่างต้นสนด้วยนะ
-
ที่อยู่ : ถนนฮอด-แม่สะเรียง ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
- พิกัด : สวนสนบ่อแก้ว
2. อ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อเอ่ยถึง อ่างขาง หลายคนก็มักจะนึกถึงเที่ยวหน้าหนาว ไปดูดอกไม้เมืองหนาวที่ออกดอกบานสะพรั่งในตอนที่อากาศเย็น ๆ แต่อ่างขางในเดือนกันยายน หรือช่วงหน้าฝน ก็สามารถไปเที่ยวได้เช่นกัน โดยสามารถไปแวะเที่ยวได้ทุกที่ เพียงแค่บรรยากาศและวิวจะแตกต่างไปเล็กน้อย มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่สีเขียวขจี ร่มรื่น สบายตามากกว่า สามารถเดินเล่นได้ชิล ๆ กับอากาศเย็น ๆ แถมเป็นข้อดีเสียด้วยเพราะคนไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งกันเที่ยวให้วุ่นวาย
3. บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่
เข้าเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่นาข้าวทั้งหลายที่ปลูกหว่านไว้กำลังงอกงามออกรวงอย่างดี โดยเฉพาะ นาขั้นบันได ที่บ้านแม่กลางหลวง หมู่บ้านชนเผ่าปกากญอในอำเภอจอมทอง ที่โดดเด่นด้วยทัศนียภาพของนาข้าวที่ปลูกไล่ระดับลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันไดท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อม นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนนอนเล่นที่โฮมสเตย์ของชาวบ้าน จิบกาแฟ ดูชาวบ้านทอผ้า หรือใครเป็นสายธรรมชาติ ก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปเที่ยวน้ำตกผาดอกเสี้ยว หรือน้ำตกรักจัง ให้ได้เดินชมป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ด้วย
4. หล่มภูเขียว จังหวัดลำปาง
สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่คล้ายปล่องภูเขาไฟตั้งอยู่บนภูเขา สันนิษฐานว่าเกิดจากการยุบตัวของผิวดิน ซึ่งปรากฏการณ์ที่รู้จักกันในชื่อ “ลุมยุบ ธรณีพิบัติภัยประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะพื้นผิวพังทลายเป็นหลุม
สภาพโดยรอบของหล่มภูเขียว มีลักษณะเป็นป่าดิบแล้ง รายล้อมไปด้วยหน้าผาที่เกิดจากภูเขาหินปูน มีความเงียบสงบ และมีสัตว์หลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนภายในหลุมหรือแอ่งจะมีแหล่งน้ำที่มีความใส นิ่ง และลึกมากจนไม่สามารถระบุได้ และสามารถมองเห็นพื้นน้ำเป็นสีฟ้าไปจนถึงสีเขียวมรกตได้อีกด้วย แถมยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลายชนิด ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนที่น่าแวะไปชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ ที่แอบซ่อนอยู่ได้เป็นอย่างดี
5. ปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวน แก่งลำดวน จังหวัดอุบลราชธานี
เชิญชมความมหัศจรรย์ของสัตว์โลก ที่กุ้งมากมายจะขึ้นมาเดินขบวนอวดโฉมเป็นหมื่นตัวในช่วงค่ำคืน ณ บริเวณน้ำตกแก่งลำดวน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกุ้งเหล่านี้จะมาเดินให้เราเห็นในช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงสิ้นเดือนกันยายน แต่ในปี 2565 นี้ จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมช่วงวันที่ 1-30 กันยายน ทั้งนี้ จำนวนกุ้งที่จะขึ้นมาเดินขบวนนั้นจะขึ้นอยู่กับระดับน้ำและความเชี่ยวของกระแสน้ำบริเวณน้ำตกแก่งลำดวน ถ้าน้ำมาก น้ำแรง ก็จะพบกุ้งขึ้นมาเดินเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเป็นช่วงที่น้ำไม่แรงมาก ฝนตกน้อย กุ้งก็จะไม่ขึ้นมาเดิน ดังนั้นหากใครอยากจะไปชมปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์นี้ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ก่อน จะได้มาไม่เสียเที่ยว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า อุบลราชธานี
6. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
ชวนสายป่าทั้งหลายไปเช็กอินความฟินที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ที่เที่ยวธรรมชาติสวย ๆ ในจังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตสำหรับสายป่าที่รักการผจญภัย เดินขึ้นเขาสูงชัน ฝ่าสายฝนไปพิชิตยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 2,102 เมตร แต่เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงาม ไฮไลต์ของที่นี่คือ ลานสนสามใบ เป็นลานกว้างที่มีต้นสนขึ้นอยู่เต็มลาน ตรงกลางเป็นทุ่งดอกหงอนนาคสีม่วง ที่ออกดอกชูช่อเบ่งบานให้ชมความงามกันในช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน ของทุกปี
7. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์
หลายคนยกให้เป็นที่สุดของช่วงปลายฝนต้นหนาวเลย สำหรับเขาค้อ เพราะเป็นสถานที่ชมหมอกที่หนาฟูแน่นสุดอลังการ แต่นอกจากทะเลหมอก ไร่กะหล่ำปลี และคาเฟ่สวย ๆ แล้ว เขาค้อยังมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว นั่นเอง เป็นวัดสวยที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ภายในวัดโดดเด่นด้วย มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ และพระเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิตร ซึ่งเป็นประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ให้ผู้คนได้กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย
-
ที่อยู่ : 95 หมู่ 7 บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
-
พิกัด : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
- เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
8. บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก จังหวัดกาญจนบุรี
สัมผัสอากาศเย็น ๆ ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านหมอก กับบ้านอิต่อง หมู่บ้านที่เคยเป็นเหมืองแร่เก่าแต่ปิดตัวลงแล้ว เหลือเพียงเศษซากความทรงจำที่จะพานักท่องเที่ยวย้อนอดีตไปในวันวาน ทั้งบรรยากาศเหมืองเก่า สะพานเหมืองแร่ สะพานแขวนป้ายไม้ เป็นหมู่บ้านแสนเงียบสงบ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนนอนชิล ๆ มองดูสายหมอกคลอเคล้าปกคลุมหมู่บ้านในยามเช้า นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงยังมีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น จุดชมวิวเนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ช่องทางมิตรภาพ เนินเสาธง และเขาช้างเผือก เป็นต้น
ภาพจาก pracha hariraksapita / Shutterstock.com
9. ประเพณีสารทไทยกล้วยไข่ จังหวัดกำแพงเพชร
จังหวัดกำแพงเพชร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองกล้วยไข่ เพราะเป็นผลิตผลที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ทำให้เกิดงานประเพณีสารทไทยกล้วยไทย และของดีเมืองกำแพงเพชรขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก โดยในปี 2565 นี้ จะจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม ณ บริเวณหน้าอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมพิธีทำบุญตักบาตร วันสารทไทย ภายในงานมีกิจกรรมสนุก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ขบวนแห่รถกล้วยไข่ตระการตา ประกวดกล้วยไข่สุก-ดิบ ประกวดธิดากล้วยไข่ พิธีทอดผ้าป่าแถว ณ วัดพระแก้ว อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร แข่งขันการกวนกระยาสารทประเภทต่าง ๆ ตลาดประชารัฐ อาหารพื้นบ้าน สินค้า OTOP เลือกซื้อสินค้าราคาถูกจากบริษัท ห้างร้าน และโรงงาน ไปจนถึงดนตรี คอนเสิร์ต ดนตรีลูกทุ่ง และสวนสนุกชุดใหญ่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์ 0-5574-1974
ภาพจาก เฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
10. บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
ชวนเที่ยว บึงบอระเพ็ด ทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 3 อำเภอในจังหวัดนครสวรรค์ และเป็นถิ่นอาศัยของนกนานาชนิด มีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำเป็นจำนวนมาก ใช้เวลาวันหยุดในเดือนกันยายนไปกับการล่องเรือชมความงามของดอกบัวสายพันธุ์ต่าง ๆ และชมนกนานาชนิด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนมาก และได้บรรยากาศชุ่มชื้นจากป่าสีเขียวขจีที่อยู่รายล้อมด้วย
11. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จังหวัดสุพรรณบุรี
อีกหนึ่งที่เที่ยวเชิงธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ขับรถแค่เพียงอึดใจก็ได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพแสนสวยงามของ อ่างเก็บน้ำเขาวง หรือ ปางอุ๋งสุพรรณ สวรรค์ของคนรักการแค้มปิ้ง ตั้งเต็นท์ นอนเล่นชมวิวท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมอยู่ หรือใครอยากจะนอนบนแพเพื่อดื่มด่ำกับสายน้ำและป่าเขา ก็มีให้เลือกได้ตามชอบเลย แต่มีข้อควรระวังไว้เล็กน้อยคือ ที่นี่ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำนะ แต่จะมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำเพื่อชดเชยแทน เช่น ล่องแพชมธรรมชาติ ปั่นเรือเป็ด พายเรือคายัก ตกปลา หรือเที่ยวเชิงวิถีชุมชนไปเลย
12. ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ จังหวัดอุทัยธานี
เที่ยวเดือนกันยายนกับที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อย่างฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ในอดีตฝายแห่งนี้เป็นเพียงฝายกั้นน้ำทำจากปูนธรรมดา แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ที่ปริมาณน้ำมีมากขึ้น สายน้ำจะไหลเอ่อล้นจากบนสูงพื้นล่าง กลายเป็นม่านน้ำตกขนาดเล็ก สามารถลงไปถ่ายรูป และเล่นน้ำเย็นให้สดชื่นคลายร้อนกันได้ ทำให้ฝางกั้นน้ำแห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำหรับนักเที่ยวสายถ่ายรูป ที่มักจะแวะเวียนกันมาเยือนอยู่เสมอ
13. เกาะช้าง จังหวัดตราด
เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวทะเลทางภาคตะวันออกกันบ้างที่ เกาะช้าง แม้จะเป็นช่วงหน้าฝน แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะมากสำหรับการมาพักผ่อนที่นี่ เพราะที่เกาะช้างในแต่ละวัน ฝนจะตกเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น แถมแดดก็ไม่ร้อนเปรี้ยงจนแสบผิวเหมือนช่วงหน้าร้อนด้วย และด้วยหน้าฝนที่ถือเป็นช่วง Low Season ทำให้ที่พักบนเกาะมีราคาถูกกว่า สามารถเลือกที่พักสวย ๆ ได้ในราคาสบายกระเป๋าเลย หรือถ้าจะไปดำน้ำก็เยี่ยม เพราะนักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย แต่อย่าลืมเช็กสภาพอากาศก่อนซื้อทัวร์ดำน้ำด้วยนะ หรือถ้าจะไปเที่ยว น้ำตกคลองพลู บนเกาะช้าง ช่วงนี้ก็มีน้ำเยอะให้ลงเล่น เป็นช่วงเวลาเที่ยวเกาะช้างที่ดีที่สุดเลยล่ะ
14. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พาลงใต้ไป เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน ในอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปเที่ยวแบบไร้สัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ต แต่แลกมากับความเงียบสงบ ได้พักผ่อนอยู่กับตัวเองและธรรมชาติแบบเต็มร้อย สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิวทะเลสาบกว้างใหญ่ใสสะอาด ภูเขาหินปูน ผืนป่าอันเขียวขจี รวมไปถึงหมอกที่ลอยเอื่อยอยู่บนยอดเขาที่มักจะเห็นได้แทบทั้งวัน และไฮไลต์ของที่นี่คือ เขาสามเกลอ ซึ่งเป็นยอดเขาขนาดเล็ก ที่โผล่พ้นน้ำ จำนวน 3 ยอด มีลักษณะคล้ายพานพุ่ม ถือเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภา ที่ใครไปเยือนไปทีไรก็ต้องไปถ่ายรูปเช็กอินทุกครั้ง
15. สกายวอล์กทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา
ไปเที่ยวดูทะเลหมอกสุดปังที่แลนด์มาร์กยอดฮิตของจังหวัดยะลา กับสกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จุดชิมวิวหมอกหนา ๆ ที่มีให้ชมตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวในเดือนกันยายน รับรองว่าได้เจอหมอกสีขาวนวลฟูหนาให้ชื่นใจแน่นอน และไฮไลต์ของที่นี่คือ ทางเดินกระจกใสที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 2,038 ฟุต ยาว 61 เมตร เป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามา มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
เดือนกันยายนแม้จะยังอยู่ในช่วงหน้าฝน แต่สายฝนก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวไทยนั้นลดลงเลย กลับยิ่งเพิ่มความชุ่มชื้น เขียวขจี เชิญชวนให้นักเที่ยวทั้งหลายออกไปยลความงดงามของความอุดมสมบูรณ์ในช่วงกรีนซีซั่นนี้ ดังนั้น อย่ามัวแต่กลัวฝนอยู่เลย ออกไปเที่ยวกันดีกว่า
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง