“มิสแกรนด์นนทบุรี” เฟลทัวร์ลง หวั่นตุ๊บ โอดไม่มีเจตนาโหนศพ “แตงโม” น้อมรับความผิด แนะนำตัว “ระวังนั่งเรือตกน้ำ” ไม่มีสติเอง สะเทือนใจโดน DM ด่า แตงโมตกน้ำ แต่คุณอ่ะตกรอบ ยกเป็นบทเรียนครั้งใหญ่
ทัวร์ลงยับเยินเลยทีเดียว สำหรับ “มาลี ทิพยาภรณ์ พรมราช” มิสแกรนด์นนทบุรี 2021 กรณีแนะนำตัวว่า “ระวังนั่งเรือตกน้ำ” บนเวทีมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2022 ซึ่งทำเอาชาวเน็ตปรี๊ดแตก ด่ากันยับถึงความไม่เหมาะสม เพราะต่างก็คิดกันว่าเจ้าตัวตั้งใจจะหมายถึงอุบัติเหตุของนางเอกสาวผู้ล่วงลับ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์”
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอตัวมิสแกรนด์นนทบุรี เจ้าตัวก็เผยว่าน้อมรับทุกความผิด ตอนพูดไม่มีสติเอง พร้อมยกเป็นบทเรียนครั้งใหญ่
“ก่อนอื่นเลยนะคะ มาลีขอโทษทุกๆ คนก่อนในประเด็นนั้น ที่มาลีพูดไป ขอโทษทั้งตัวมาลีเอง ขอโทษองค์กรมิสแกรนด์ไทยแลนด์ แล้วก็ขอโทษชาวนนทบุรี และที่สำคัญที่สุดขอโทษแฟนคลับพี่แตงโม ทุกๆ คนเลย คือตอนนั้นมาลียอมรับเองเลย ว่ามาลีไม่มีสติ พอเราไม่มีสติเนี่ย ทำให้สิ่งที่เราจะสื่อมันผิดเพี้ยนไป และไม่ตรงกับเจตนารมณ์ที่ต้องการจะสื่อ
เจตนารมณ์ที่มาลีต้องการจะสื่อ ไม่ใช่คำแบบนั้นเลย อันนี้มาลีกล้าการันตีค่ะ คือเราจะพูดอีกคำหนึ่ง ซึ่งเป็นคำที่ไม่ได้มีความหมายแบบนั้นเลย มาลีไม่มีสติเองค่ะ ด้วยความที่เป็นเวทีแรกของตัวมาลีเอง คือเพื่อนๆ ก่อนหน้านั้น คือเขาแบบโอเวอร์มาก ซึ่งเราก็เลยอยากที่จะใส่เป็นคีย์เวิร์ดอะไร แต่มันก็ดูผิดเพี้ยนไปค่ะ ตรงนี้มาลีรับผิดชอบทั้งหมดเองค่ะ”
เผยประโยคที่อยากพูด
“ที่จะพูดจริงๆ นะคะ จะพูดว่าให้ระวังการนั่งเรือ ไม่มีคำว่ามิสแกรนด์เลยค่ะ เหมือนจะเป็นคีย์เวิร์ดเล็กๆ ของมาลี เพราะว่ามาลีรณรงค์ในเรื่องของความยุติธรรมตั้งแต่ประกวดมิสแกรนด์นนทบุรีอยู่แล้ว มาลีตอบคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมทั้งหมด แล้วเฟซบุ๊ก ไอจี ทุกอย่างที่เป็นส่วนตัวของมาลี มาลีโพสต์เกี่ยวกับเรื่องของความยุติธรรม เพราะว่ามาลีก็เป็นหนึ่งคนที่รู้จักพี่แตงโม แล้วมาลีก็เป็นชาวนนทบุรี มาลีติดตามข่าวในเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่า มันมีเงื่อนงำในเรื่องนี้ เราแค่อยากจะชูความยุติธรรมของเคสพี่โมให้มันเกิดขึ้นค่ะ”
(แสดงว่าก่อนที่จะขึ้นไปแนะนำตัว เราก็ตั้งใจที่จะสื่อสารเรื่องนี้อยู่แล้ว?) ใช่ค่ะ ตั้งใจที่จะสื่อสารอยู่แล้ว เพราะว่าก็มีจังหวัดก่อนหน้านั้น ได้รณรงค์อีกเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับในเรื่องของรัฐบาล ซึ่งมาลีก็คิดว่า เฮ้ย…ในเรื่องความยุติธรรมของเรามันน่าสนใจ เพราะตอนนี้เคสของพี่โม ไม่ได้รับความยุติธรรม เราเลยอยากจะชูเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ”
เผยพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว มารู้ตอนทัวร์ลง ขนาดตัวเองยังไม่พอใจกับสิ่งที่ทำลงไป
“ใช่ค่ะ ยอมรับเลยค่ะ คือด้วยความที่หลายๆ อย่าง ทั้งเพื่อนด้วย คือทุกอย่าง ด้วยเวลาด้วยอะไรมันเร็วไปหมด ทำให้เราพูดคำนั้นออกไปเลย ซึ่งตอนพูดยอมรับว่าไม่รู้ตัวเลย จนทำกิจกรรมเสร็จ ตอนนั้นก็น่าจะประมาณห้าทุ่มเที่ยงคืนแล้วค่ะ มีทีมพี่เลี้ยงบอกว่าทัวร์ลงแล้ว เราก็บอกว่าทัวร์ลงอะไร ตอนนั้นเรายังไม่รู้ตัว จนเขาส่งคลิปมาให้ดู
ขนาดมาลีเห็นตัวเอง มาลียังรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองทำเลย แล้วมาลีรู้สึกว่ามันถูกต้องแล้ว ที่วันนี้ทุกคนจะดรามา คนจะคิดกับเราในทางแบบนี้ เพราะเรายังไม่ชอบตัวเราเอง เวลาเราพูดเรื่องแบบนั้นออกไปเลยค่ะ ทั้งทีมมาลีด้วย พี่เลี้ยง ผู้จัดการมาลีเป็นคนสนิทของพี่โม เขายังบอกมาลีเลย ว่ามาลีแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นจริงๆ”
ไม่ได้โหนศพ ต้องการชูเรื่องความยุติธรรม จะช่วยทำให้คดีกระจ่าง
“เจตนาของมาลี มาลีก็บอกชัดเจนไปแล้ว ว่าต้องการจะชูในเรื่องของความยุติธรรมจริงๆ มาลีไม่ต้องการที่จะใช้กระแสของพี่โมเลย ไม่ต้องการที่จะล้อเล่นกับความตายของใครเลย เพราะว่าทุกชีวิตมีค่าทั้งหมด มาลีแค่อยากจะช่วยรณรงค์เรื่องนี้ เพราะมาลีเชื่อว่ามาลีเป็นมิสแกรนด์นนทบุรี กระบอกเสียงของมาลีสำคัญในเมืองของมาลี มาลีแค่อยากจะชูเรื่องนี้ แต่มาลีผิดพลาดไป มันเลยทำให้เป็นแบบนั้น
มาลียอมรับค่ะ ไม่ว่าจะมีคอมเมนต์แย่ หรือใครจะว่ามาลียังไง หรือว่ามาลีพูดขอโทษไปแล้ว แล้วเขาไม่เข้าใจ มาลียินดีที่จะรับฟัง ยินดีที่จะอยู่กับเรื่องนี้และแก้ไข แต่มาลีจะแสดงให้ทุกคนเห็นค่ะ ว่ามาลีจะช่วยทำให้เรื่องนี้กระจ่าง ด้วยหน้าที่มิสแกรนด์นนทบุรีค่ะ
ถามว่าทำไมไม่รณรงค์เรื่องอื่น คือส่วนตัวมาลีคิดว่าประเทศไทยหรือสังคมไทย ไม่ได้มีความยุติธรรมมานานแล้ว แล้วทุกๆ เรื่องด้วย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของพี่โม ก่อนหน้านั้นมาลีก็รณรงค์ในเรื่องของความยุติธรรม การคอรัปชั่น ถ้าใครย้อนไปดู ย้อนไปดูได้เลยค่ะ ในการตอบคำถามรอบมิสแกรนด์นนทบุรี มาลีก็ยังยึดถือในเรื่องของความยุติธรรม แต่ในเคสของพี่โม มันเป็นข่าวที่ดัง ประชาชนทุกคนรักพี่โม เราทุกคนต้องการความจริง แต่ตอนนี้มันไม่มีความจริง ไม่มีความยุติธรรมออกมา เราก็เลยอยากจะชูเรื่องนี้ในตอนนี้นะคะ”
เฟลมากที่ทัวร์ลง ถึงขั้นบอกจะตุ๊บเพราะเรื่องนี้
“ตอนนั้นเฟลมาก ยอมรับเลยค่ะ หลังจากที่รู้ข่าวว่าทัวร์ลง คือใจเรารู้สึกว่าเฮ้ย…คือเราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในชีวิต ก็คิดว่ามันจะมีผลกระทบ แต่พอมาลีได้ทำงานและเจอองค์กรมิสแกรนด์ไทยแลนด์ทุกคน ที่คอยซัปพอร์ตความรู้สึก และมาลีได้แสดงเจตนารมณ์ บอกเหตุผลไป ทุกคนก็บอกว่าไม่เป็นไร ไปทำทุกอย่างให้เต็มที่ในอีก 20 วันที่เหลือ แล้วหลังจากนั้นอะไรจะเกิดขึ้น ก็อยู่ที่ตัวมาลีแล้วค่ะ เพราะมาลีเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน ถ้าวันนี้มาลีทำในกองประกวดเต็มที่ มาลีเชื่อว่ามาลีก็จะคว้ามงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์มาครองได้ค่ะ”
ปัดโดนตัดคะแนนจากการแนะนำตัว
“ไม่มีเลยค่ะ ตอนนี้คือไม่มีเลย เพราะว่าองค์กรมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับมาลีเลย มาลีก็ต้องขอบคุณ ที่เขาซัปพอร์ตความรู้สึกของมาลีได้ดีมาก ทีมทุกคนฟังและเข้าใจ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร แล้วมาลีก็ไม่ได้มีเจตนาในเรื่องนั้นจริงๆ เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับตัวมาลีเลย”
ยกเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต
“โห…บทเรียนคือสำคัญมากค่ะ มาลีไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิต ตลอดชีวิตมาเนี่ย เราคิดว่าเราเป็นคนที่มีสติมาก เราเป็นคนที่คิดก่อนพูดเสมอ เราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย จนมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มาลีคิดแล้วว่าโอเค พรุ่งนี้อนาคตวันถัดไป สิ่งที่มาลีต้องทำและมีมากที่สุดเลยคือสติ ต้องคิดก่อนพูด พูดก็ต้องเข้าใจคนอื่นมากขึ้น ให้คนอื่นมากกว่านี้ เห็นใจคนอื่นมากกว่านี้ นี่เป็นบทเรียนสำคัญในชีวิตหนึ่งของมาลีเลย
ตอนแรกที่โดนโจมตีเราหายไปค่ะ แต่ด้วยความที่สุดท้ายมาลีมานั่งเข้าใจ ว่าถ้าวันนี้มาลีเป็นคนหนึ่งที่รักพี่โมมาก แล้วมีคนหนึ่งที่เราอาจจะแบบว่า โอเคเราฟังครั้งแรกเรารู้สึกว่ามันทำร้ายจิตใจเรา แน่นอนแหละมาลีอาจจะเป็นคนหนึ่ง ที่เราต้องว่าเขาแหละ เพราะเขาทำแบบนี้กับคนที่เรารู้สึกรัก แต่พอวันหนึ่งเรามาฟังเจตนารมณ์ของเขา เขาไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น มาลีก็รู้สึกว่า มันก็มีคนที่เขาฟีดแบ็กดีกลับมาหาเรา ว่าพี่มาลีสู้ๆ คนที่เข้าใจและรู้จักมาลี ตอนนี้ก็กลับมาส่งพลังบวกให้กับมาลีเยอะเลย ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ก็เต็มร้อยค่ะ”
นอกจากตำหนิตัวเอง คนใกล้ตัวก็ยังตำหนิ เรื่องนี้ไม่ควรเกิด โทษตัวเองตลอด
“ใช่ๆ ไม่ใช่แต่ตัวเองด้วยนะคะ ทีมพี่เลี้ยง ผู้จัดการ ครอบครัว ทุกคนคือบอกว่ามาลี พี่รู้ว่ามาลีเป็นคนยังไง แต่เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งมาลีก็โทษตัวเองตลอดว่าไม่มีใครผิด เรายินดีรับฟังทุกคอมเมนต์เลย ว่าเขาว่าเรานั่นมันก็ถูกต้องแล้ว ถ้ามาลีเป็นคนนั้น มาลีก็รู้สึกไม่ดีจริงๆ ค่ะ
หลังจากเหตุการณ์นั้น การร่วมกิจกรรมก็ไม่มีปัญหาเลยค่ะ คือด้วยความที่เพื่อนทุกคนน่ารักมาก พี่ๆ ทุกคนในองค์กรมิสแกรนด์ไทยแลนด์ พี่ๆ ทุกคนในกองน่ารักมาก คอยซัปพอร์ตความรู้มาลี เพื่อนๆ ก็คือเอ็นจอย ทำกิจกรรมกับเราอย่างสนุกสนาน ทุกคนคือมองข้ามเรื่องนี้ไปเลย เพราะว่าเราต้องทำโชว์ของมิสแกรนด์ครบรอบ 10 ปีให้มันเต็มที่ที่สุด คือไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะคะ แต่มาลีก็ต้องทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของมาลีให้ดีที่สุด แต่มาลีก็จะเอาเรื่องนี้อยู่ในใจมาลีตลอด ว่ามันไม่ควรเกิดขึ้นอีกในชีวิตของมาลีค่ะ มาลีจะไม่แตะเรื่องนี้ค่ะ แล้วมาลีก็ยินดีที่จะทำให้ คือจะเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องคดีของพี่โมแล้วกัน เพื่อให้ความยุติธรรมมันเกิดขึ้น จะรณรงค์เรื่องนี้และพูดเรื่องนี้ต่อไปค่ะ”
รู้สึกไม่ดี ที่มีคนรู้จักมากขึ้นเพราะข่าวแบบนี้
“ไม่รู้สึกดีเลยค่ะ เพราะถ้าเราเลือกได้ ทุกคนอยากให้คนรู้จักเราในด้านที่ดี แต่พอมาวันนี้ คนรู้จักเราในด้านไม่ดี แล้วรู้จักไปแล้ว สิ่งที่มาลีทำได้ก็คือยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น และปรับปรุงตัว ทำให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้มีความคิดแบบนั้น ไม่ได้มีเจตนารมณ์แบบนั้นจริงๆ เพื่อให้เขามองเราใหม่ แล้วก็กลับมารักเราเอ็นดูเราค่ะ”
ตอบกลับแฟนคลับแตงโม พร้อมขอโทษที่ทำลายความรู้สึก
“คอมเมนต์เขายังไม่มายุ่ง กับพื้นที่ส่วนตัวของมาลีนะคะ แต่ล่าสุดมีมา 3 คน แต่อ่านแล้วเขาก็ไม่ได้พูดเป็นเชิงว่าเรา แต่เขาพูดในความรู้สึกของคนที่รักพี่โมมาก ซึ่งเราอ่านแล้วเราเข้าใจ มาลีก็ตอบไปว่าขอบคุณค่ะ มาลีขอโทษนะ ยินดีค่ะ มาลีตอบอย่างนี้เลย แล้วตอบทุกคอมเมนต์ค่ะ เพราะรู้สึกว่าเราทำลายความรู้สึกของคนคนหนึ่งที่เขารักพี่โมมาก”
โดน DM ด่า แตงโมตกน้ำ แต่คุณจะตกรอบ น้อมรับทุกความผิด
“ที่มาคอมเมนต์ในส่วนตัวของมาลี ไม่มีนะคะ แต่ที่ทัก DM เข้ามา หรือในไอจีสตอรี่ ก็จะเป็นแบบว่า คุณแตงโมตกน้ำ แต่คุณอ่ะตกรอบ ซึ่งเราก็บอกขอบคุณเขาไป แล้วก็ขอโทษ เขาก็อ่านนะคะแต่ไม่ได้ตอบกลับมา คือมาลียินดียอมรับ เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราทำผิด เราควรยอมรับแค่นั้นเอง แล้วก็ปรับปรุงในสิ่งที่เราทำผิดพลาดไปค่ะ
ถามว่าสะเทือนใจไหมกับคำว่าเราจะตกรอบ สะเทือนใจแหละ แต่ว่า…คือมาลีเป็นคนมีภูมิคุ้มกันด้านนี้สูงปรี๊ดเลย แต่ไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะ มาลีต้องบอกก่อน มาลีใส่ใจจริงๆ มาลีเลยตอบกลับไป มันสะเทือนใจค่ะ 10-20 เปอร์เซ็นต์สะเทือนใจแน่ บั่นทอนหัวใจเราแน่ บั่นทอนแรงที่เราจะสู้บนเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์แน่ๆ แต่ว่าหนึ่งสิ่งที่มาลีทำ คือหันไปหาคนข้างหลัง แล้วมองว่าวันนี้ใครร่วมสู้ไปกับเราบ้าง ใครอยู่กับเราบ้าง ใครคอยซัปพอร์ตเราบ้างแค่นั้นเลยค่ะ แล้วเราก็โอเคไม่เป็นไร เราผิดไปแล้ว แล้วเราก็เดินต่อค่ะ”