ชาวบ้านชัยภูมิวอนขอความเป็นธรรม จังหวัดเตรียมประกาศตั้งอำเภอใหม่ทับที่ทำกินชาวบ้านกว่า 100 ไร่
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ชาวบ้านจากบ้านห้วยยางคำ หมู่ 4 และบ้านทุ่งคำหลวง หมู่ 2 ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ รวม 10 คน นำเอกสารหลักฐานที่ดินทำกินของตนเอง เดินทางเข้าร้องทุกข์ที่หน้าห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ ชั้นล่างของศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ
หลังจากทางจังหวัดชัยภูมิมีการขอใช้ที่ดินทำกินเพื่อสร้างอาคารและสถานที่เพื่อจัดตั้งอำเภอใหม่ ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดกับอำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอแก้งคร้อ ซึ่งเตรียมจะดำเนินการประกาศตั้งเป็นอำเภอใหม่ของ จ.ชัยภูมิ เพิ่มเติม
นายวิเชียร อันสนธิ์ อายุ 73 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ท่ามะไฟหวาน หนึ่งในผู้นำเอกสารมาร้องทุกข์ เล่าว่า อยากมาขอความเป็นธรรมหลังทราบว่า จ.ชัยภูมิ เตรียมประกาศตั้งกิ่งอำเภอ หรือตั้งอำเภอใหม่ขึ้นอีก 1 อำเภอในจุดนี้ ซึ่งจะมีพื้นที่ชาวบ้านและของตนเองในหมู่ 2 และหมู่ 4 ต.ท่ามะไฟหวาน ถูกประกาศทับที่ดินทำกิน
นายวิเชียรกล่าวว่า แต่ก่อนนั้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินของตนเอง ใช้ทำมาหากินมาตลอด ต่อมา มีกำนันตำบลดังกล่าวเข้ามาให้เซ็นเอกสารโดยไม่สอบถามตนและเพื่อนบ้านว่าจะขอใช้สิทธิบริเวณที่ดินทำกินของตนและเพื่อนบ้าน จากนั้นกำนันได้เรียกชาวบ้านที่ไม่ใช่ในหมู่บ้านเข้ามาประชาคมเพื่อใช้ที่ดินทำกินบริเวณดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ
นายวิเชียรกล่าวว่า เอกสารทั้งหมดนี้ กำนันของตำบลดังกล่าวและ อบต.ในพื้นที่ได้เซ็นยินยอมกันเอง โดยไม่ได้คุยหรือหารือกับกลุ่มชาวบ้านในจุดนี้ รวมทั้งตนด้วย กระทั่งเอกสารดังกล่าวออกมาพบว่ามีการเซ็นยินยอมไปแล้ว ทั้งๆ ที่ตนและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไม่ได้เซ็นเอกสารยินยอมแต่อย่างใด
นางจุฬารัตน์ อันสนธิ์ อายุ 48 ปี ลูกสาวนายวิเชียร ระบุว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบถามชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างจริงจังก่อน หากจะทำอะไรก็ควรมาพูดคุยกันดีๆ มีเหตุผล แจ้งให้รับทราบก่อน ไม่ใช่มาทำแบบนี้ที่คนเกี่ยวข้องยังไม่รู้เรื่องเลย
นางจุฬารัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาสอบถามชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเลย และมีการนำเอกสารเข้ามายึดที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ ทั้งๆ ที่ตนและชาวบ้านในละแวกดังกล่าวทำกินมาแล้วหลายสิบปี แต่ถ้ามีหน่วยงานเข้ามาประชาคมกับชาวบ้าน ทางเราก็ยินดีที่จะจัดตั้งอำเภอใหม่ ซึ่งบางคนที่มีเนื้อที่ทำกินเยอะเขาก็ยอมสละพื้นที่ให้กับหน่วยงานได้ แต่ของตนกับชาวบ้านรายอื่นมีที่ทำกินเท่านี้ ต่อไปจะให้ไปทำกินที่ไหน
ส่วน นางแววตา ลองจำนงค์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 บ้านทุ่งคำหลวง ต.ท่ามะไฟหวาน กล่าวว่า ส่วนของตนนั้นขอคัดค้านพื้นที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ทำมาหากิน มีชาวบ้านได้รับผลกระทบหลายสิบราย เนื้อที่รวมแล้วกว่า 100 ไร่ อยากให้ตรวจสอบการเซ็นเอกสารยินยอม เนื่องจากกำนันดังกล่าวได้เสียชีวิตไปแล้ว ได้เซ็นเอกสารยินยอมปลอมแปลงขึ้นมา ซึ่งที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ของตนและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ อยากให้ตรวจสอบให้มากกว่านี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พร้อมกันนี้ชาวบ้านได้นำเอกสารหลักฐานเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พร้อมระบุว่า หากจะให้พวกตนยินยอมเรื่องตั้งอำเภอใหม่ขึ้นในจุดนี้ ชาวบ้านยินดีและยินยอมในการจัดตั้งอำเภอใหม่ใน ต.ท่ามะไฟหวาน แต่ไม่ใช่ในเนื้อที่ทำกินที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอฝากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและนำเรียนผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเพื่อตรวจสอบและช่วยชาวบ้านให้ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วย