ททท.ปรับแผน 7+7 เหลือ 4+3 หลัง ศบค.ประกาศลดกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศเหลือ 7 วัน สำหรับพื้นที่นำร่องที่พร้อมสามารถรับนักท่องเที่ยวเข้าได้เลย
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2564 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) เห็นชอบให้ลดการกักกันสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ จากเดิม 14 วันเหลือ 7 วัน และปรับแผนให้พื้นที่นำร่องเดิมที่เป็นโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 7+7 Extension จากเดิมต้องรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ครบ 7 วัน ในภูเก็ตก่อน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค.เป็นต้นไป จะปรับรูปแบบเป็น 4+3 วันก่อนในช่วงแรก
นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นถ้าพื้นที่ใดพร้อม และพื้นที่ทำเรื่องยืนยันมาให้สามารถรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศตรงเข้าพื้นที่ได้เลย ประกอบด้วย จ.กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ และเพิ่มเติมคลองม่วง ทับแขก) จ.พังงา (เขาหลัก เกาะยาว) เท่ากับพื้นที่นำร่องเหล่านี้จะเป็นเหมือนภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่นักท่องเที่ยวที่ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จะไม่ต้องถูกกักตัว
เมื่ออยู่ในพื้นที่ให้ครบ 7 วันจะสามารถไปยังพื้นที่อื่นทั่วประเทศไทยได้ เช่นเดียวกับ จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า) ที่ ศบค.อนุมัติให้ไม่ต้องกักตัวเหมือนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จากเดิมที่ในโครงการสมุย พลัส โมเดล กำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องอยู่ในบริเวณโรงแรมช่วง 3 วันแรก และ 4 วันต่อมาถึงออกไปทั่วบริเวณเกาะสมุยได้
นายยุทธศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1-30 พ.ย.นี้ ถ้าพื้นที่ใดพร้อมก็เปิดได้เลย ประกอบด้วย 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ (ทั้งจังหวัด) พังงา (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก) เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) ขณะที่ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ โดยตัด อ.สัตหีบออกไป) และเพิ่ม ระนอง (เกาะพยาม)เลย (เชียงคาน) บุรีรัมย์ (อ.เมือง)
ด้าน น.ส.ชรินทิพย์ ตียาภรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงกรณีการที่รัฐบาลลดการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 7 วัน และให้พื้นที่นำร่องของ จ.กระบี่(เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ และเพิ่มเติมคลองม่วง ทับแขก) รับนักท่องเที่ยวตรงได้เลยว่า ขอให้บอกมาว่าต้องทำอย่างไรเพราะพื้นที่นำร่องของกระบี่มีความพร้อมทั้งหมด จะยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพราะเดินทางง่าย จากมาตรการที่น้อยลง
ที่สำคัญเป็นฤดูท่องเที่ยวทะเลกระบี่ เพราะในวันที่ 15 ต.ค.อุทยานจะเปิดเกาะต่างๆ และเปิดจุดดำน้ำทั้งหมด อีกทั้งเดิมที่มีโครงการ 7+7 กำหนดให้นักท่องเที่ยวจากภูเก็ตต้องเดินทางทางเรือเท่านั้น ประกอบกับมีฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวมาน้อยกว่าที่คาดไว้
น.ส.ชรินทิพย์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากสนามบินกระบี่กำลังปรับปรุง และจะพร้อมรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ 24 ชั่วโมง ได้วันที่ 31 ต.ค. เป็นต้นไป จากปัจจุบันรับได้เฉพาะเรื่องบินเช่าเหมาลำ ระหว่าง 22.00-04.00 น. ซึ่งไม่มีเครื่องบินบินมาลง ดังนั้นในช่วงเดือน ต.ค. ยังต้องรับนักท่องเที่ยวที่บินลงสนามบินภูเก็ตก่อน แต่พร้อมรับนักท่องเที่ยงโดยตรง ถ้าทางส่วนกลางอนุญาตให้รับที่สนามบินภูเก็ตได้
ส่วนการเปิด จ.กระบี่ ทั้งจังหวัดในวันที่ 1-30 พ.ย. มีการซ้อมรับนักท่องเที่ยวผ่านสนามบินกระบี่ไป 1 รอบเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นจะมีการซักซ้อมแผนกับทางท่าอากาศยานอีกรอบ โดยในวันที่ 31 ต.ค.นี้จะมีเที่ยวบินแรกจากสิงคโปร์และมาเลเซีย และวันที่ 1 พ.ย. จะมีเที่ยวบินจากสแกนดิเนเวีย ขณะเดียวกันจะฝึกทบทวนระบบ SHA+manager ที่ใช้ดูแลและควบคุม นักท่องเที่ยว ส่วนตำรวจและสาธารณสุขพื้นที่ก็พร้อมแล้ว ตอนนี้รอแค่วัคซีนที่คาดว่าจะมีต้นเดือน ต.ค.นี้