คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้จ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือแรงงานใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม โดย 13 จังหวัดเดิมได้รับ 2 เดือน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แจงเหตุห้ามประชาชนไปซื้ออาหารในห้างสรรพสินค้าหลังผ่อนคลายมาตรการให้ร้านเปิดได้ ด้านนายกสมาคมภัตตาคารแย้มเลขาธิการ สมช. รับหลักการ “กลับมาขายหน้าร้าน”

ก่อนการแถลงข่าวประจำวันของ สธ. จะเกิดขึ้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำทีมผู้บริหารกระทรวง แถลงการณ์ขอสังคมเข้าใจบทบาทของอาจารย์หมอใหญ่จากหลายสถาบัน ทั้งจากศิริราช จุฬาฯ ไม่ได้มีส่วนกำหนดนโยบาย หรือจัดซื้อจัดหาเวชภัณฑ์และวัคซีน หลังถูกวิจารณ์แสดงความเห็นด้วยถ้อยคำรุนแรง

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เริ่มต้นการแถลงด้วยแถลงการณ์กรณีการแสดงความคิดเห็นต่อคณาจารย์ด้านวิชาการของกระทรวงจากกลุ่มบางกลุ่ม “ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงจนมีผลกระทบต่อการทำงาน และต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคณะที่ปรึกษา” ว่าแต่ละคนไม่ได้มีส่วนในการกำหนดนโยบายของกระทรวงแต่อย่างใด หากแต่เสนอความเห็นในทางวิชาการเท่านั้น

“ทุกท่านได้ให้ความเห็น และข้อเสนอแนะในฐานะนักวิชาอย่างเป็นอิสระ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งนี้ คณาจารย์ทุกท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบาย หรือการจัดซื้อ จัดหาเวชภัณฑ์ และวัคซีนแต่อย่างใด”

นพ.เกียรติภูมิ ระบุว่า สธ. ได้เรียนเชิญคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสถาบันมาช่วยเป็นที่ปรึกษา คณะกรรมการ คณะทำงาน ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากสถาบันทางการแพทย์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19

ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกกล่าวถึง คือ นพ.ยง ภู่วรวรรณ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา และ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น

แถลงการณ์ของกระทรวง สธ. ระบุถึงการให้กำลังใจคณาจารย์ที่กล่าวถึง และ “ขอให้สังคมได้ร่วมเข้าใจและรับทราบบทบาทที่มีคุณค่ายิ่งของคณาจารย์ทุกท่าน”

ก่อนหน้านี้ มีการเผยแพร่แผ่นป้ายข้อความที่เขียนบนกระดาษ เนื้อหาระบุว่า หมดศรัทธาในบุคคลที่เป็นอาจารย์แพทย์ของสถาบันแห่งหนึ่ง 2 คน เห็นตำแหน่งและเงินสำคัญกว่าชีวิตลูกศิษย์ และ “ไม่ใช่อาจารย์ของพวกเราอีกต่อไป”

ผ่อนปรนให้ขายอาหารในห้างวันแรก

วันนี้ยังเป็นวันแรกที่พื้นที่ 29 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ และการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) เวลา 21.00-04.00 น. นอกจากนี้บริษัท ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ บขส. ยังหยุดให้บริการเดินรถเส้นทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทุกเส้นทางชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. หรือจนกว่าจะมีประกาศคำสั่งเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม ศบค. ผ่อนคลายให้ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ สามารถจำหน่ายและเปิดได้จนถึงเวลา 20.00 น. แต่กำหนดให้ขายโดยผ่านการบริการขนส่งอาหาร (Food Delivery Service) เท่านั้น ห้ามจำหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรง

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานยอดผู้ป่วยหน้าใหม่ ณ 4 ส.ค. ที่จำนวน 18,901 ราย และเสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 147 ราย โดยถือเป็นวันที่ 18 ที่ยอดผู้ป่วยรายใหม่ทะลุหลักหมื่น

สถานการณ์การระบาดของไวรัสร้ายที่ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศ เป็นเหตุผลที่ นพ. สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย สธ. หยิบยกมาชี้แจงที่มาของการออกมาตรการเพื่อห้าม งด ปิดกิจกรรม/กิจการต่าง ๆ ที่ความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ซึ่งร้านอาหารเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับใช้

“ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ทั้งในส่วนผู้ประกอบการ คนทำงาน ผู้บริโภคที่ต้องร่วมมือ เพราะตอนนี้จำนวนของผู้ติดเชื้อ จำนวนของผู้เสียชีวิตเกินกว่ากำลังของระบบทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทยที่จะรองรับได้” นพ. สุวรรณชัยกล่าว

ข้อกำหนดฉบับที่ 30 ที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบกับคำสั่ง ศบค. ที่ 11/2564 ลงวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งมีผลเริ่มวันนี้วันแรกนั้น ประกอบด้วย 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การนั่งบริโภคในร้าน, ระยะเวลาการให้บริการ และการจำหน่ายสุรา

สธ. เผย ปชช. ร้องเรียนไรเดอร์จับกลุ่มคุย-ถอดหน้ากาก

นพ. สุวรรณชัย อธิบายถึงข้อสงสัยในการปฏิบัติเกี่ยวกับร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ในศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ว่า “เน้นการจำหน่ายในรูปแบบของการสั่งอาหาร หรือเครื่องดื่ม ผ่านการบริการขนส่งอาหาร” และย้ำว่าไม่มีการจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อลดการติดต่อระหว่างผู้จำหน่ายและผู้บริโภค โดย ห้างสรรพสินค้ายังจำเป็นต้องจัดให้มีการคัดกรอง ซึ่งไม่ใช่เพียงอุณหภูมิร่างกายอย่างเดียว แต่ต้องรวมถึงประวัติความเสี่ยงของผู้ทำงาน โดยเฉพาะผู้ขนส่งอาหาร ก่อนที่จะเข้ามาในพื้นที่อาคาร มีการจัดระบบคิว เพื่อลดความแออัด และกำหนดที่พักคอยให้รอคิว ตามมาตรการเว้นระยะห่างอย่างเข้มงวด

ประเด็นสำคัญที่มักเป็นข้อร้องเรียนจากประชาชนอยู่บ่อยครั้งคือ พนักงานขนส่งอาหาร ระหว่างรอมักมีการรวมกลุ่มพูดคุย ถอดหน้ากาก จึงต้องกำชับให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดสูงสุด

“ผู้รับบริการ ตอนนี้ต้องถือว่าทุกคนที่เข้ามาหาเรา ก็จะมีโอกาสแพร่เชื้อมาหาเรา…พยายามหันไปชำระเงินด้วยระบบออนไลน์ กำหนดให้มีจุดรับอาหารที่สั่งซื้อ และที่สำคัญสวมหน้ากากทุกครั้ง” นพ. สุวรรณชัยกล่าว

นายกสมาคมภัตตาคารแย้มเลขาธิการ สมช. รับหลักการ “กลับมาขายหน้าร้าน”

ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวกับบีบีซีไทยว่า จะเสนอให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มพนักงานส่งอาหาร (ไรเดอร์) และผู้ที่ทำงานร้านอาหารเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่ไปส่งมีความปลอดภัย ทว่าในช่วงเที่ยง นางฐนิวรรณเปิดเผยว่า “เพิ่งวางสายกับท่านเลขาธิการ สมช. เลยค่ะ คุยกันเรื่องการขายอาหารหน้าร้าน แล้วทางท่านเลขาฯ เห็นชอบในหลักการที่ทางสมาคมสะท้อนไปให้” อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมภัตตาคารไทยไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า ศบค. จะผ่อนปรนมาตรการโดยเปิดให้ประชาชนสามารถซื้ออาหารโดยตรงจากร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าเมื่อใด แต่ถือเป็นข่าวดีที่ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ สมช. รับฟังเสียงสะท้อนของผู้ประกอบการ และมีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม

เธอย้ำว่า ผู้ประกอบการร้านอาหารต่าง ๆ อยากขายอาหารจากหน้าร้านทั้งนั้น เพราะ “เจ้าของร้านอาหารตามห้างก็ยังต้องเสียค่าเช่าร้านอยู่ ค่าเช่ามันไม่ได้หยุด”

นางฐนิวรรณเห็นว่า ห้างสรรพสินค้าเป็นสถานที่ที่ชนชั้นกลางไปจับจ่ายใช้สอย ด้วยเหตุผลเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย และสินค้าครบครันที่มีมากกว่าตลาดสด

“วันที่มีมาตรการออกมาว่าให้ปิดห้างทั้งหมด ตัวเองก็ช็อกไปเลย เพราะว่าเป็นยาแรงมาก เข้าใจว่าคุณหมอไม่อยากให้เกิดการเดินทางเพื่อมาทำงานของคนเป็นแสนคน แต่มันห้ามไม่ได้ เพราะยังไงเราก็ต้องทำมาหากิน เพราะยังไงค่าเช่าในห้างยังเดินอยู่ แล้วจู่ ๆ จะให้พนักงานหยุดงานไปเลย เราก็ทำไม่ได้” นางฐนิวรรณกล่าว

“เราก็เริ่มดิ้นรนออกไปหาครัวกลาง หรือไปเช่าคูหาตามตึกหรือปั๊มน้ำมัน ตอนแรกคิดว่าจะช่วยผลักดันครัวกลาง แต่ก็กลัวจะสวนทางกับนโยบาบของรัฐบาลกับการลดจำนวนคนที่ออกมานอกบ้านเพื่อไปทำงาน ก็เลยเลือกที่จะคุยกับ ศบค. ถึงความเป็นไปได้อื่นที่ไม่ต้องเพิ่มต้นทุนมากกว่า” และนี่เป็นที่มาของนโยบายการผ่อนคลายให้ร้านอาหารตามห้างสามารถกลับมาเปิดได้ในครั้งนี้

“ผู้ประกอบการร้านอาหารมองเห็นแล้วว่ายังมีคนเข้าไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตตามห้างอยู่ตลอด และโอกาสในการขายของให้คนที่มาซื้อของในห้าง และเดินผ่านไปมา จะช่วยให้เกิดการขายอย่างน้อย ๆ 100-200 กล่อง ก็เป็นโอกาสอันดีที่เจ้าของกิจการจะสามารถนำรายได้มาเลี้ยงพนักงานของตนเองได้” นางฐนิวรรณอธิบาย

ครม. เคาะงบ 6 หมื่นล้าน จ่ายเงินเยียวยา 29 จ. แดงเข้ม

มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ออกมาบังคับใช้อย่างเข้มข้นใน 29 จังหวัด ทำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบและให้ความช่วยเหลือกลุ่มแรงงาน ผู้ประกอบการ ในพื้นที่สีแดงเข้ม ภายใต้วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท จากเดิม 30,000 ล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติ ครม. นี้ โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้รับมอบหมายให้ไปเร่งจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) และรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทำให้ไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการนี้ เพื่อนำเข้าที่ประชุม ครม. ต่อไป