“หมอชลน่าน” ออกตัว “ทักษิณ” อยากกลับไทยเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวพรรค เผยแพร่: 25 มี.ค. 2566 21:52 ปรับปรุง: 25 มี.ค. 2566 21:52 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ สระบุรี – หมอชลน่าน ชี้อดีตนายกฯ ทักษิณ อยากกลับประเทศไทยเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวพรรค ด้านเศรษฐา เผยเห็นใจต้องจากบ้านนาน 16 ปี มั่นใจไม่กระทบแลนด์สไลด์วันนี้ (25 มี.ค.) ที่สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาเปิดเวทีปราศรัย พร้อมกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พร้อมที่จะกลับมารับโทษจำคุกในประเทศไทย หากได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะออกมาเป็นอย่างไรนพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้มาร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพี่น้องชาวเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ที่มีสมาชิกอยู่ค่อนข้างยอะมากใน อ.มวกเหล็ก มาดูและรับทราบถึงสภาพปัญหาต่างๆ และมาดูกระบวนการทำกิจกรรมของพี่น้องชาวเกษตรกร ซึ่งตรงนี้เป็นโรงรับน้ำนมดิบ ที่จะใช้น้ำนมดิบสู่การผลิต สิ่งที่เราได้พบในขณะนี้ พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ประสบปัญหามาก ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการผลิต เนื่องจากอาหารสัตว์ราคาสูงมาก ตัวน้ำนมดิบมีราคาตกต่ำ การจำหน่าย เช่น นมโรงเรียนได้โควตาไม่พอเพียง และยังมีนมผงเข้ามาแย่งตลาดในการผลิตจากโรคระบาดอีก เป็นสิ่งที่เรารับทราบจากพี่น้องเกษตรกร ในส่วนของพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะนำเรื่องนี้เข้าสู่นโยบาย และจะปรับไปเป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งเรามั่นใจว่าเราสามารถที่จะทำได้ โดย เฉพาะข้อเสนอของการใช้ผลิตภัณฑ์นมกับนักเรียนให้เพิ่มปริมาณการใช้มากขึ้น จากเดิมอยู่แค่ระดับ ป.6 มีการเสนอเพิ่มถึง ม.3 ซึ่งเราเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพิ่มฐานการบริโภคตรงนี้ และเรื่องของจำนวนวันที่บริโภคจากเดิม 265 วัน เป็นการให้ทั้งปี 365 วัน เป็นข้อเสนอที่เรารับทราบ เรื่องนี้ นายเศรษฐา เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรับข้อเสนอนี้ไปเพื่อจะทำให้พี่น้องได้มีโอกาส ส่วนประเด็นมั่นใจว่าแลนด์สไลด์ มากน้อยขนาดไหน ปีนี้สระบุรีมี 4 เขต เรามีตัวผู้สมัคร หรือว่าที่ผู้สมัครที่มีคุณภาพ เป็นที่ถูกใจของคนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเขต 1 ถึง 4 ประกอบกับกระแสความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง ต้องการที่จะออกจากวิกฤต โดยสิ่งที่เขากระทบอยู่ตรงนี้ เราเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยเรามีโอกาสทั้ง 4 เขตในสระบุรี ส่วนประเด็นของนายทักษิณ เท่าที่ฟัง และติดตามข่าว คาดว่ามันเป็นการแสดงความคิดเห็นของตัวเองในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่มีความประสงค์อยากจะกลับบ้านเกิด เพราะใช้คำว่าติดคุกมา 16 ปี แม้กระทั่งที่พูดว่า ยินดีที่จะกลับมาติดคุกที่เมืองไทย เพราะต้องการที่จะมาอยู่ใกล้ครอบครัว ลูกหลาน เป็นมุมมองการแสดงความคิดเห็นของตัวเขาเอง ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับพรรค ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า อย่างแรกเลยในฐานะของคนเป็นพ่อ ตนเห็นใจที่นายทักษิณ ต้องอยู่เมืองนอกมานาน และก็คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน แต่ในขณะเดียวกัน ตนเคารพในกฎหมาย ตนเคารพในการตัดสินใจของอดีตนายกณ ส่วนเรื่องเกิดการกระทบของแลนด์สไลด์ ตนเห็นว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของท่าน ไม่เกี่ยวกับพรรค ตนเชื่อว่านายทักษิณ มีความเชื่อในกระบวนการยุติธรรม หน้าที่ของพรรคเรามีนโยบายดีๆ เรามี ส.ส.ที่พร้อมเสนอตัวให้ประชาชน เพราะหน้าที่ของหัวหน้าคือลงพื้นที่เยอะขึ้น และกระจายนโยบาย รับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ฟังเรื่องปัญหา และถ้าเกิดมีแนวทางการแก้ไขเราจะดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องมองการโจมตีจากพรรคอื่นหรือคู่แข่งทางการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมันเป็นช่วงรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคก็หาจุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง และคู่แข่งว่ามีจุดด้อยอะไร ความเชื่อความศรัทธาของพี่น้องประชาชนที่จะตัดสินใจได้ นอกนั้นเป็นประเด็นอะไรที่เขาคิดว่าเป็นประโยชน์กับเขา เขาย่อมหยิบยกขึ้นมา แต่โดยรวมอดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคนที่รักพรรคเพื่อไทย ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค เพราะท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นความเชื่อความศรัทธาต่างๆ ของแต่ละท่าน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ศรัทธาท่าน ก็เป็นสิทธิของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกัน คนที่ไม่ชอบท่านมันต้องมีเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งประเด็นเหล่านี้เราเฝ้ามองว่ามันเกิดการกระทบกับพรรคเรามากน้อยขนาดไหน ในมุมที่เข้ามากล่าวหาใส่ร้ายที่เกินขอบเขต ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจะดูในมุมนั้นเท่านั้น แต่ว่าถือเป็นมิติของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง อย่าให้กระทบสิทธิ อย่าให้กระทบข้อกฎหมายของแต่ละพรรค จริงๆ แล้วที่การที่ออกมาพูด คาดว่า อดีตนายกฯ ไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ทางผู้สมัคร ทางพรรคทำหน้าที่ต่อไป อย่าเอาอดีตนายกฯ มาเป็นประเด็น อย่าเอามาเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง หรือว่าการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเขาเป็นคนคนหนึ่งที่เป็นผู้ก่อตั้งพรรคขึ้นมา และเป็นคุณพ่อที่รักครอบครัว การแสดงเจตจำนงที่ชัดเจน เราให้ความเคารพ หน้าที่เราก็เดินหน้าหาเสียงไป ท่านบอกว่าถ้าท่านจะกลับมา ท่านไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรมอะไร ท่านยินดีเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งถ้าท่านพูดอย่างนั้นตนเชื่อว่าท่านมีความมั่นใจวกระบวนการยุติธรรม มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนกล้าพูดอย่างนั้น มันไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยจะต้องไปทำอะไร เช่น กฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ อันนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน